แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวลำพูน
ลำพูน เคยเป็นที่ตั้งของนครหริภุญชัย ในสมัยพระนางจามเทวีเดิมชื่อเมืองหริภุญไชย เป็นเมืองโบราณ มีอายุประมาณ 1,343 ปี จนกระทั่งถึงสมัยพญายีบาจึงได้เสียการปกครองให้แก่พญามังราย ผู้รวบรวมแว่นแคว้นทางเหนือเข้าเป็นอาณาจักรล้านนา
ต่อมาภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เมื่อเจ้าผู้ครองนครองค์สุดท้าย คือ พลตรี เจ้าจักรคำขจรศักดิ์ ถึงแก่พิราลัย เมืองลำพูนจึงเปลี่ยนเป็นจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ปกครอง สืบต่อมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันมีประตูเมืองหลักทั้ง 4 ทิศคือ ทิศเหนือประตูช้างสี ทิศใต้ประตูลี้ ทิศตะวันออกประตูท่าขาม ทิศตะวันตกประตูมหาวัน มีกำแพงเมืองเก่า ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือคือประตูท่านาง
นอกจาจังหวัดลำพูนจะมีชื่อเสียงในฐานะเป็นเมืองประวัติศาสตร์แล้ว ยังเป็นแหล่งเพาะปลูกลำไยที่สำคัญของจังหวัด อีกทั้งยังมีพระเครื่องโดยเฉพาะพระรอด ที่เป็นที่รู้จักกันอีกด้วย หากใครที่ต้องการมาท่องเที่ยวยังจังหวัดลำพูนแล้วละก็ อย่าลืมแวะไปสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในจังหวัดลำพูน ที่มีมากมายหลายสถานที่ท่องเที่ยวด้วยกัน มาเที่ยวเมืองลำพูนแล้วต้องไปที่ไหนบ้างไปดูกันเลย
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในจังหวัดลำพูน
วัดพระธาตุหริภุญชัย
เป็นโบราณสถานคู่บ้านคู่เมืองลำพูน ก่อสร้างในสมัยพระเจ้าอาทิตยราช ราวปีพ.ศ. 1440 ภายในมีองค์พระธาตุที่บรรจุอัฐิของพระพุทธเจ้า องค์พระธาตุนี้นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งในล้านนาไทย เป็นวัดพระธาตุประจำปีเกิดของปี ระกา (ไก่) ด้วยความเชื่อที่ว่าใครที่เกิดปีนี้ควรหาโอกาสสักครั้งมาสักการะบูชาเพื่อความเป็นศิริมงคลของตัวเอง
และยังเป็นหนึ่งในแปดจอมเจดีย์แห่งสยาม ที่คัดสรรโดยกรมพระยาดำรงราชานุภาพ บิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย นักท่องเที่ยวโดยส่วนมากที่มาเยือนยังจังหวัดลำพูนนี้ จะนิยมมากราบไหว้ข้อพระสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นศิริมงคล และความโชคดีในการเดินทาง นักท่องเที่ยวที่มาสามารถมาเยี่ยมชมความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ นอกจากนี้วัดพระธาตุหริภุญชัย ยังใช้จัดงานสำคัญๆของเมืองลำพูนอีกด้วย
อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี
พระนางจามเทวีเป็นองค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย พระนางเป็นปราชญ์ที่มีความกล้าหาญทางคุณธรรมและยังมีพระศิริโฉมงดงามอีกด้วย พระนางได้นำพระพุทธศาสนา ศิลปะวัฒนธรรมเผยแพร่ในดินแดนล้านนาไทย ซึ่งทำให้ดินแดนล้านนาไทยเจริญรุ่งเรืองมาจนถึงทุกวันนี้ อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2525 อันเป็นปีที่ฉลอง 200 ปี กรุงรัตนโกสินทร์
ซึ่งผู้คนที่นี้รู้จักกันดีและให้ความเคารพและกราบไหว้บูชาเป็นอย่างมาก ใครที่เดินทางมายังจังหวัดลำพูนก็อย่าลืมแวะไปกราบสักการะอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตัวเอง อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองประวัติศาสตร์อย่างลำพูน ที่ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าดึงดูดใจแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้แวะเวียนมาเยี่ยมชมความสวยงามของสถานที่แห่งนี้
วัดมหาวัน
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองลำพูนเป็นวัดหนึ่งในสี่วัดของวัดสี่มุมเมือง ที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด วัดนี้สร้างมาตั้งแต่ครั้งพระนางจามเทวีเสด็จขึ้นครองเมืองหริภุญชัย มีพระพุทธสักขีปฎิมากรหรือพระศิลาดำเรียกว่าพระรอดหลวงหรือแม่พระรอด ซึ่งปัจจุบันประดิษฐานอยู่บนแท่นแก้วหน้าองค์ พระประธานในวิหารมีความสำคัญและเป็นแม่พิมพ์พระสกุลลำพูนหนึ่งในพระเครื่องชุดเบญจภาคี
อีกทั้งยังมีพระรอดที่มีชื่อเสียงโด่งดังของจังหวัดลำพูน ที่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบสะสมพระ อีกทั้งยังมีความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพบูชาของผู้คนที่นี้ ส่วนมากผู้ที่มาไหว้พระแห่งนี้จะนิยมเช่าพระรอดติดตัวกลับไป เนื่องด้วยเชื่องเรื่องคุ้มครองแคล้วคลาดปลอดภัยนั้นเอง
ภายในบริเวณวัดมีความร่มรื่นสวยงามด้วยสีเหลืองอร่ามตัดกับสีเขียวของต้นไม้ ที่นี้จึงเป็นอีกหนึ่งวัดดังของเมืองลำพูนที่มีนักท่องเที่ยวนิยมแวะเวียนมากราบไหว้ขอพรกันเป็นจำนวนมากทั้งคนในพื้นที่นี้เองและคนต่างจังหวัดเป็นต้น
วัดสันป่ายางหลวง
แต่เดิมเป็นศาสนสถานของศาสนาพราหมณ์ มีพระจากพม่าเข้ามาเผยแผ่พุทธศาสนา มีชาวบ้านเลื่อมใส่จึงได้เปลี่ยนจากเทวสถานเป็นวัดชื่อว่า “ขอมลำโพง” เป็นวัดทางพุทธศาสนาวัดแรกของล้านนา ต่อมาในปี พ.ศ. 1202 ได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดและเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า “วัดอาพัฒนารามป่าไม้ยางหลวง” วัดนี้ใช้เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงศพพระนามจามเทวี
และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดสันป่ายางหลวงจนถึงปัจจุบันนี้ ภายในวัดมีความสวยงามเป็นอย่างมากเป็นที่ดึงดูดใจของผู้ที่มาให้ได้ชมสถาปัตยกรรมปูนปั้นที่สวยงามวิจิตรบรรจงและสะดุดตา ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระหยกเขียวซึ่งนำมาจากแม่น้ำโขง พระนามเต็มของ พระเขียว คือ พระพุทธอัญญรัตน มหานทีศรีหริภุญชัย เป็นที่เคารพบูชาของผู้คนที่นี้ อีกทั้งนักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสแวะเวียนมาก็นิยมมากราบขอพรกัน หากใครมีโอกาสแวะมาท่องเที่ยวเมืองลำพูนก็อย่าลืมแวะมาชมความสวยงามของวัดสันป่ายางหลวงที่นี้
วัดพระยืน
เป็นวัดฝ่ายอรัญวารี จัดเป็นวัดหนึ่งในวัดสี่มุมเมือง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก มีเจดดีย์ประธานทรงปราสาท สร้างเลียนแบบสถาปัตยกรรมพม่า ในสมัยพุกามพญากือนาได้อาราธนาพระสุมนเถระจากสุโขทัย มาเผยแผ่พุทธศาสนาในล้านนาโดยให้พำนักที่วัดพระยืน ก่อนที่จะไปสร้างวัดสวนดอกที่เชียงใหม่ เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาแบบลังกาวงศ์และบูรณใหม่ในสมัยเจ้าหลวงอินทยงยศโชติ
ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจคือ พระพุทธรูปเก่าแก่และหลักศิลาจารึกสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช มีเจดีย์ทรงปราสาทที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางเปิดโลก และพบภาพพระบฏโบราณที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ นักท่องเที่ยวนิยมไปชมความสวยงามของวัดแห่งนี้กัน
พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน
เดิมเป็นคุ้มเจ้าสัมพันธ์วงษ์ สร้างในปีพ.ศ. 2445 สมัยเจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ ลักษณะรูปทรงอาคารเป็นทรงปั้นหยางดงาม ปัจจุบันเทศบาลเมืองลำพูน จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ประเพณี วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนชาวลำพูนเมื่อ 100 กว่าปีที่ผ่านมา
เช่น ภาพถ่าย ร้านขายเครื่องเขียน ผลิตภัณฑ์ข้าวของเครื่องใช้รุ่นเก่า ที่ปัจจุบันหาชมได้ยากแล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของที่นี้ ทำให้นึกถึงบรรยากาศกลิ่นอายในยุคเก่าๆ อีกหนึ่งสถานที่เรียนรู้ของผู้คนรุ่นใหม่ ที่นับวันของบางสิ่งก็ถูกเลื่อนหายไปตามกาลเวลาแล้วนั้นเอง
วัดจามเทวี
สร้างเมื่อประมาณปีพ.ศ.1298 เป็นฝีมือของชาวขอม มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมซ้อนชั้น ตามแบบพุทธคยาในประเทศอินเดีย มีพระพุทธรูปปางประทานพรยืนอยู่ในซุ้ม ทั้งหมดมี 60 องค์
ภายในบรรจุอัฐิพระนางจามเทวี ต่อมายอดพระเจดีย์ได้หักหายไป ชาวบ้านจึงเรียกว่า”กู่กุด”หรือที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า”พระเจดีย์สุวรรณจังโกฏิ” นอกจากนี้ยีงมีรัตนเจดีย์ซึ่งตั้งอยู่ทางขวาของวิหาร และกู่บรรจุอัฐิของครูบาศรีวิชัยอยู่ด้วย
วัดพระคงฤาษี
เป็นวัดหนึ่งในวัดสี่มุมเมือง ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ สร้างขึ้นในสมัยพระนางจามเทวี เป็ยพระอารามหลวงในสมัยนั้น วัดนี้มีชื่อเสียงเนื่องด้วยมีพระพิมพ์ที่เรียกว่า”พระคง”ที่เป็นที่รู้จักกันนี้ของชาวเมืองลำพูนนั้นเอง
บริเวณวัดมีเจดีย์ที่มีลักษณะแปลกกว่าเจดีย์องค์อื่นๆ ในเมืองลำพูน เชื่อกันว่าเป็นเจดีย์ที่สร้างพร้อมกันขึ้นมากับวัดนี้ มีซุ้มคูหาสี่ด้านประดิษฐานพระพุทธรูปและรูปพระฤาษี อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในจังหวัดลำพูนที่น่าสนใจ
กู้ช้าง-กู่ม้า
รูปทรงสถูปเป็นทรงกระบอกปลายมน ศิลปะแบบพยู่ (ศร่เกษตรในพม่า) เป็นสุสานช้างศึก-ม้าศึก คู่บารมีของพระนางจามเทวี ช้างศึกชื่อว่า”ภู่ก่ำงาเขียว”ซึ่งหมายถึงช้างผิวสีคล้ำ งาสีเขียวทรงอนุภาพฤทธิ์ในยามสงคราม ชาวเมืองถือว่ากู่ช้าง-กู่ม้าแห่งนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองอีกด้วย
ด้านหน้ามีการทำบุญสะเดาะเคราะห์ตามวันเดือนที่เกิด เป็นที่นิยมทำกันแก่ผู้ที่มากราบไหว้บูชาตามความเชื่อส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังมีดอกไม้ธูปเทียนจำหน่ายอยู่บริเวณด้านหน้าอีกด้วย หรือผู้ที่มีจิตรศรัทธาท่านใดจะซื้อมาถายเองก็ได้
วัดต้นแก้ว
ในอดีตชื่อ”วัดเชตวนาราม”สมัยหริภุญชัยพบศิลาจารึกอักษรมอญโบราณระบุถึงชื่อกษัตริย์ผู้มีนามว่า”พญาสรรพสิทธิ์” ได้ทรงผนวชระว่างครองราชย์ และได้สร้างสถูป 3 องค์ ในส่วนวัดต้นแก้วนั้นยังมีสิ่งที่น่าสนใจคือพระเจดีย์ต้นก๊อ เป็นสถูปทรงกลมล้านนา พระพุทธรูปทรงเครื่องในวิหาร
โถงพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านชาวยอง โรงทอผ้าฝ้ายแบบโบราณ ซึ่งมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก อีกหนึ่งวัดเก่าของชาวลำพูนที่มีความน่าสนใจ สามารถไปเยี่ยมชมและกราบสักการะกันได้ทุกวันทำการ
คุ้มเจ้ายอดเรือน
เรือนสรไน ของเจ้ายอดเรือน ณ ลำพูน ชายาเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ ณ ลำพูน เจ้าผู้ครองนครลำพูนองค์สุดท้าย ได้สร้างขึ้นให้แก่เจ้ายอดเรือนเมื่อปีพ.ศ. 2470 นับเป็นเรือนพักอาศัยในระดับเจ้าครองนครที่มีสภาพดีมาก มีความเก่าแก่และรักษาสภาพเดิมที่ค่อนข้างสมบูรณ์
เป็นสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นจนเรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของเรือนไม้ที่ได้รับอิทธิพลตะวันตกที่เข้ามาแพร่หลายยังล้านนาในช่วงปลายรัชกาลที่5-6 ที่เรียกว่า”เฮือนสมัยกลาง” นั้นเอง หากใครได้มีโอกาสมาเมืองลำพูนแล้วห้ามพลาดที่จะมาชมคุ้มเจ้ายอดเรือน อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดลำพูน
อาหารขึ้นชื่อของจังหวัดลำพูน
หากแวะไปเที่ยวเมืองลำพูนแล้วคงต้องหาโอกาสไปลิ้มลองก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไยและก๋วยเตี๋ยวทรงเครื่องโบราณ ที่พิเศษเลยนั้นก็คือน้ำซุปที่ใช้ลำไยอบแห้งมาตุ๋นกับหมูพร้อมด้วยเครื่องตุ๋นยาจีนซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของร้าน
ใช้เวลาเคี่ยวนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงได้น้ำซุปที่หวานหอมจากลำไยอบแห้ง บวกกับความหอมของเครื่องยาจีน ที่เข้มข้นเข้ากันเป็นอย่างดี
ส่วนก๋วยเตี๋ยวโบราณทรงเครื่องนั้น เป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำขลุกขลิก ใส่เครื่องมาแบบเต็มๆ ทั้งหมูตุ๋นลำไยถั่วฝักยาว มะม่วงสับ ถั่วลิสงป่น ปรุงรสมาให้เรียบร้อย อร่อยแบบไม่ต้องปรุงกันเลยทีเดียว
อีกทั้งราคาไม่แพง ร้านนี้เป็นที่รู้จักกันดีของผู้คนท้องถิ่น ตั้งอยู่ที่ตรงข้ามกับพระธาตุหริภุญชัย เดินออกมาทางด้านหน้าวัดแล้วข้ามสะพานขัวมุงท่าสิงห์ เดินลงสะพานออกมา 50 เมตร จะเจอร้านอยู่ทางซ้ายมือ
สนใจค้นหาที่พักในลำพูน CLICK !!