เที่ยวเสียมเรียบ-กัมพูชา
แนะนำรีวิว ที่เที่ยวเสียมราฐ-กัมพูชา
กัมพูชา เป็นอีกหนึ่งประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับประเทศไทย สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้หลายทางทั้งทางบกและทางอากาศ กัมพูชาเป็นประเทศที่มีผืนป่า ต้นไม้ใหญ่รายล้อมอยู่มากมาย ศิลปะ วัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า และหนึ่งในนั้นก็คือเมืองเสียมเรียบ หรือ เสียมราฐ นั้นเอง
เมืองเสียมราฐ เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวสำคัญของกัมพูชา เมืองเสียมราฐมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ยอดนิยม ห้ามพลาด ได้แก่ นครวัด(อังกอวัด) นครธม(บายน) และปราสาทตาพรหม ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้มีความสำคัญในฐานนะที่เป็น มรดกโลก สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรื่องในครั้งอดีตของกัมพูชา ความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวทั้งด้านศิลปะวัฒนธรรมนี้เองที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกพากันมาเที่ยวชม และสัมผัสอารยธรรมเหล่านี้นสักครั้งในชีวิต ดังคำกล่าวที่ว่า “See Angkor and Die” ประโยคอมตะนี้ Arnold Joseph Toynbee นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีชาวอังกฤษเป็นผู้กล่าวไว้หลังจากที่ได้มาเยือนนครวัดในตอนนั้น
รีวิว เมืองเสียมราฐ-แนะนำที่กิน ที่เที่ยวที่น่าสนใจ
Day 1
• ออกเดินนทางจาก กทม. ดอนเมือง – เสียมเรียบ กัมพูชา ด้วยสายการบิน Air asia / FD610 /10.00
เนื่องจากได้ติดต่อกับทางโรงแรมไว้ว่าขอมีรถของโรงแรมมารับที่สนามบิน เดินออกมาจากสนามบินจะเจอพนักงานถือป้ายชื่อรอรับอยู่ด้านนอก
• ถึงโรงแรมที่พัก เช็คอินที่โรงแรม Prince D’ ankor เมืองเสียมราฐ-กัมพูชา นำกระเป๋าเดินทางและสัมภาระต่างๆเข้าไปเก็บในห้องพัก
ห้องพักที่นี้ออกแนวคลาสสิค ให้ความรู้สึกเหมือนโรงแรมทางภาคเหนือของประเทศไทย แถวเชียงใหม่ เชียงรายประมาณนี้ ราคาคืนละพันกว่าบาท สำหรับเข้าพักสองท่าน ภายในโรงแรมมีบาร์ สระว่ายน้ำ มุมนั่งเล่น บริการโต๊ะทัวร์ และอื่นๆอีกมากมาย ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกทั่วไป มี Wi-Fi แอร์ ทีวี กาต้มน้ำ ฯลฯ
เมื่อเอาของไปเก็บในห้องพักแล้วก็ออกมาเดินเล่นด้านนอกโรงแรมกัน ชมบรรยากาศบ้านเมือง ถนน ตึก ความเป็นอยู่ของผู้คนในเมืองเสียมราฐ-กัมพูชานี้ซะหน่อย
เดินออกมาไม่ไกลจากโรงแรมก็เจอรถเข็นขายน้ำอ้อย เลยขอลองซื้อชิมซะหน่อย รสชาติน้ำอ้อยผสมน้ำส้มอ่อนๆ ราคาอยู่ที่ แก้วละ 2000 เรียล.KHR ถือว่าโอเครอยู่
• กินข้าวกลางวันที่ ร้าน Cafe indocine เป็นร้านอาหารที่มีบรรยากาศน่ารัก อบอุ่น อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมเดินมาประมาณ 10 นาที เมนูที่สั่งมา สำหรับสองคนมื้อนี้เป็นมื้อแรกในเมืองเสียมราฐ-กัมพูชา ได้แก่
-อังกอเบียร์ขวดใหญ่ 4 $
-อันชอเบียร์ กระป๋อง 2 $
– traditional Amok chicken 7$
-chas kruang 6.5 $
• ข่วงเย็นๆมานั่งแฮงค์เอ้ากันที่ Khmer family Restuarant อยู่ย่าน Pub Street หากนั่งรถตุ๊กๆมาจากโรงแรม ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1.5-2 $ อยู่ที่การต่อรอง ใช้เวลานั่งมาประมาณ 5 นาที ที่ร้านนี้จะมีเมนูอาหารให่เลือกลองชิม มากมาย ราคาไม่แพงทั้งอาหารและเครื่องดื่ม
-draft beer 0.5$
-gintonic 4 $
-coffee 2.5$
-water 1.5$
เช็คบิลมา ทั้งหมด=17$
สนใจที่พักอื่นๆในเสียมเรียบ
ขากลับนั่งรถตุ๊กๆกลับโรงแรม เลยสอบถามน้องคนขับเรื่องทัวร์ไปนครวัด สอบถามข้อมูลมาได้ความว่า สามารถติดต่อกับรถตุ๊กๆได้ทุกที่ เค้าจะคิดราคาเหมามีแบบ รอบเล็ก 15$ กับ รอบใหญ่ 20$ ไม่มีบวกเพิ่ม ราคานี้ไม่รวมบัตรค่าเข้าชมปราสาทต่างๆ เพราะเราต้องไปซื้อเองในวันที่จะไป ตกลงกันได้เสร็จสรรพ นัดกันเรียบร้อยว่าของเราเป็บรอบใหญ่ เวลานัดพรุ้งนี้เช้าตี 4.30 เพราะน้องคนขับแนะนำให้ไปรอดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า
Day 2
ตื่นตี 4 รถมารับตี 4.30 ไปที่จุดซื้อตั๋ว เปิดให้บริการเกือบ ตี 5 ซื้อแบบ 1 วัน ราคา 37$/คน มีนักท่องเที่ยวมายืนต่อแถวกันค่อนข้างมาก แนะนำให้มาก่อนเวลาเปิดสักหน่อย
ราคาตั๋วเข้าเที่ยวชมปราสาทนครวัดในกัมพูชา
1 วัน = 37 $ (ตั๋วหมดอายุวันเดียว)
3 วัน = 62 $ (ตั๋วหมดอายุภายใน 10 วัน)
7 วัน = 72 $ (ตั๋วหมดอายุภายใน 30 วัน)
เจ้าหน้าที่จะถ่ายรูปลงบัตร+จ่ายเงิน รอประมาน 3นาที/ต่อคน หน้าทางเข้ามีร้านกาแฟ ขนมปัง เผื่ใครที่มาเช้าๆแล้วหิวกาแฟขนมปัง แซนวิช
อกกจากที่ซื้อตั๋ว นั่งบนรถตุ๊กๆไปเรื่อยๆก็จะผ่านจุดตรวจ ( Angkor kjung u / check piont place )
• Angkor wat
ได้ถูกขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดย Unessco ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม ภายใต้ชื่อ เมืองพระนคร
แต่เดิมนครวัดเป็นเทวสถานของศาสนาฮินดูซึ่งสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระวิษณุ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธ นครวัดเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ตัวเทวสถานถือเป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมรสมัยรุ่งเรือง และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชาโดยปรากฏในธงชาติกัมพูชาและเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของประเทศ
ปราสาทนครวัดเป็นสิ่งก่อสร้างในช่วงยุครุ่งเรืองของอาณาจักรเขมรโดยมีหินทรายเป็นวัสดุก่อสร้างหลัก ใช้หินรวม 5,000,000-10,000,000 ก้อน หินทรายแต่ละก้อนมีน้ำหนักสูงสุด 1.5 ตัน ใช้แรงงานช้างกว่า 40,000 เชือก และแรงงานคนนับแสนขนหินและชักลากหินมาจากเขาพนมกุเลน ชึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 40 กิโลเมตรมาสร้าง
1 ปี จะมี 2 วันที่พระอาทิตย์จะขึ้นตรงกึ่งกลางของปราสาทที่นี้” ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวมาชมปรากฏการณ์นี้เป็นจำนวนมากมาก
ขากลับออกมาจากนครวัด ตรงลานจอดรถด้านนอกจะมีร้านค้าให้ช้อปปิ้งกัน ราคาไม่แพง สามารถต่อรองได้ เลยจัดไป ซื้อเสื้อ 3$ + หมวก 2$ + กางเกง 3 $ เป็นของที่ระลึกในทริปนี้
• Angkor thom (Bayon)
เป็นปราสาทหินของอาณาจักรเขมร อยู่ในบริเวณของใจกลางนครธม…
สร้างขึ้นเป็นวัดประจำสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ก่อสร้างในราวปี พ.ศ. 1724-พ.ศ. 1763 หลังจากที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงได้ชัยชนะจากการขับไล่กองทัพอาณาจักรจามปา นับเป็นศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีความซับซ้อนทั้งในแง่โครงสร้างและความหมาย เนื่องจากผ่านความเปลี่ยนแปลงด้านศาสนาและความเชื่อมาตั้งแต่คราวนับถือเทพเจ้าฮินดู และพุทธศาสนา
โดยทั่วไปจะมี 4 หน้า 4 ทิศ นอกจากนี้สิ่งที่ถือว่าเป็นความโดดเด่นของเหล่าพระพักตร์พระโพธิสัตว์ฯก็คือ พระพักตร์ส่วนใหญ่จะเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ที่ภายหลังพระพักตร์เหล่านี้ถูกยกให้เป็น“ยิ้มบายน”อันลือลั่นโลก เป็นหนึ่งในรอยยิ้มอมตะที่อยู่คู่โลกมาร่วม 800 ปี ในอดีตนั้นยิ้มบายนมี อยู่บนปรางค์ 54 ปรางค์ ซึ่งเชื่อว่าแทนจำนวนเมือง 54 เมืองที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ปกครองในยุคนั้น ที่หากคูณด้วย 4 เข้าไปก็จะได้ยิ้มบายน 216 ยิ้ม
ปัจจุบันปรางค์ส่วนหนึ่งพังทลายลงไปเหลืออยู่ 37 ปรางค์ ก็ทำให้เหลือยิ้มบายนอยู่ 148 ยิ้ม (37 x 4) โดยแต่ละยิ้มบายนต่างก็มีความแตกต่างกันออกไป มีทั้งที่ยิ้มมุมปาก อมยิ้ม ไม่ยิ้ม ยิ้มดุๆ ยิ้มในกรอบหน้าต่าง ยิ้ม 3 in 1 (เห็น 3 ยิ้มในมุมมองเดียว)
นอกจากนี้ยังมีระเบียงคตล้อมรอบอยู่ 2 ชั้น เรียกว่าชั้นในและชั้นนอก มีเสาหินเรียงรายสองข้าง และมักมีรูปสลักนูนต่ำของนางอัปสรา รวมทั้งรูปสลักภาพประวัติความเป็นมาและสังคมในสมัยนั้น เช่น การรบระหว่างขอมกับจาม
ระเบียงชั้นนอกจะเข้าถึงที่ตั้งของบรรณาลัย หรือหอหนังสือ 2 จุด คือหอเหนือ และหอใต้ ส่วนระเบียงชั้นในซึ่งสร้างในยุคหลัง จะเห็นการเปลี่ยนแปลงรูปสลักจากรูปชีวิตประจำวัน เป็นรูปสลักทางศาสนามากขึ้น
ช่วงสายๆอย่างนี้หากใครหิวแล้วขอแนะนำให้มาหาอาหารเช้ารองท้องได้บริเวณหน้าปราสาทบายน จะมีร้านขายอาหารประเภทกาแฟ น้ำผลไม้ แซนวิช ของกินเล่นเช็คบิลไปทั้งหมด 13 $
ด้านข้างจะมีกิจกรรมขี่ช้างชมรอบๆบริเวณปราสามบายน
• Ta prohm
ด้านในมีรากไม้ใหญ่ๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง ลาล่าทูมไรเดอร์ และด้านนอกมีซากปรักหักพังจากสงครามโลกครั้งที่2
ปราสาทตาพรหมเป็นปราสาทหินในยุคท้ายๆ ของอาณาจักรเขมร ปราสาทเหล่านี้ถือว่าเป็นสถานที่ของพระพุทธศาสนาที่สมัยนั้นมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก
ถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และมีการขยายพื้นที่สร้างต่อเติมอีกในรัชสมัยของพระเจ้าอินทรวรมันที่ 2 เป็นศิลปะแบบบายน ของศาสนาพุทธ นิกายมหายาน
ปราสาทตาพรหมจัดได้ว่าเป็นวัดในพุทธศาสนาและเป็นวิหารหลวง ทางเข้าประกอบด้วยโคปุระชั้นนอกและชั้นใน บริเวณผนังที่อยู่เชื่อมระหว่างโคปุระชั้นนอกและชั้นในมีการสลักภาพตามคติธรรมของพุทธศาสนานิกายมหายาน
ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1729 เพื่ออุทิศให้แก่พระราชมารดาของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 คือพระนางชัยราชจุฑามณีผู้เปรียบประดุจกับพระนางปรัชญาปรมิตา ซึ่งหมายถึงเมื่อพระองค์เป็นอวตารของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พระราชมารดาของพระองค์จึงเปรียบดังพระนางปรมิตาเช่นกัน ปราสาทตาพรหมถูกสร้างเคียงคู่กับปราสาทพระขรรค์
ซึ่งพระองค์ทรงถวายอุทิศให้กับพระราชบิดา ปราสาทตาพรหมนี้สร้างหลังปราสาทพระขรรค์เพียง 5 ปี
การดูแลปราสาทต่างๆนั้นรัฐบาลได้ทำการตัดต้นไม้ออกจากปราสาทอื่นๆ เพราะกลัวว่าประสาทจะล้มลงหากต้นไม้ใหญ่โตมากๆ แต่สำหรับปราสาทตาพรมนั้น รัฐบาลมีแนวคิดที่จะคงต้นไม้ไว้เหมือนโบราณที่มีต้นไม้ขึ้นบนปราสาทแทบทุกปราสาทจึงกลายเป็น ลักษณะเด่นของปราสาทตาพรหมคือมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นคลุมตัวปราสาทเป็นจำนวนมาก
ในรัชกาลที่กษัตย์นิยมฮินดูได้อำนาจคืนจากกษัตริย์ที่นับถือพุทธ จึงให้มีการทำลาย และมีร่องรอยการทำลายมากที่สุด เพราะความต่างของการนับถือศาสนา ปราสาทตาพรมจึงไม่หลงเหลือศิลปะให้พวกเราได้เห็นมากนัก
และเนื่องจากใช้ถ่ายทำหนังหลายเรื่อง เช่น ทูมไรเดอร์ เจมส์บอนด์ ฯลฯ นักท่องเที่ยวจึงเข้าคิวเพื่อถ่ายรูปกับรากไม้มากกว่าซาบซึ้งในศิลปกรรม.
ห้องน้ำเข้าฟรี สะอาดมาก+ตลาดของฝากของที่ระลึก หนังสือประวัติศาสาตร์อังกอวัดราคา 8$
ข้างลาดจอด
•Siem Reap Container Night Market & Pub Street
ตกเย็นขากลับควรแวะมาเดินเล่นชมแสงสีเสียง ยามค่ำคืนในเสียมเรียบที่ถนน ผับสตรีท บรรยากาศเหมือ ถนนข้าวสารที่กรุงเทพฯ อาหารเครื่องดื่มราคาไม่แพง มีให้เลือกเข้าไปนั่งชิวๆมากมายหลากหลายร้าน หรือจะลองชิมน้ำผลไม้ปั่นข้างทาง น้ำผลไม้ปั่น 1$ ถ้าปั่นกับเหล้ารัม 2$ เดินกินได้สบายๆ
Day 3
• เปรี๊ยะอองเจ๊ขะ เปรี๊ยะอองจอง
(Preah ang chek preah ang chorm)
ไหว้พระสำคัญคู่บ้านคู่เมืองเสียมเรียบเปรียบเหมือนศาลหลักเมือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของเสียมเรียบ ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้สักการะและขอพร มีความศักสิทธิ์มาก
ตามประวัติเล่าว่า
องค์เจ๊กกับองค์จอม เป็นพี่น้องกัน และมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างมาก วันหนึ่งหลังจากไปทำบุญกลับไปก็นอนหลับไม่ตื่นขึ้นมาอีก บิดามารดามีความเสียใจ และอาลัยกับลูกสาวทั้งสองคนอย่างมาก จึงได้สร้างพระพุทธรูปขึ้นมาสององค์ องค์ใหญ่นามว่า องค์เจ๊ก องค์เล็กเป็นน้องนามว่า องค์จอม เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของเมืองเสียมราฐ ประชาชนที่นี่ให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก
ค่าใช้จ่ายวันนี้
นั่งตุ๊กๆจาก รร. ไป 1$
ดอกบัว กำละ 1 $
พวงมาลัย 1$
ก้านมะลิร้อย 2000 เรียล
ชุดมะพร้าวคู่ 2$
ค่าฝากรองเท้า 2 คู่ 1$
ให้ทานคนพิการ 500 เรียล
• ดอกลำดวน ดอกไม้ประจำชาติ กัมพูชา
จะเห็นมีพ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงวางขายกันตรงบริเวณหน้าทางเข้าวัด เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา มีต้นลำดวลมากมายในเมืองเสียมราฐ
• Combodia museum พิพิธภัณฑ์ Duty free
อีกหนึ่งที่ซื้อของฝากในเสียมเรียบ สินค้าแบรนด์เนม สินค้าปลอดภาษี อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์อยู่ข้างๆกันอีกด้วย (ถ้าซื้อของด้านในจะได้ voucher ค่ารถตุ๊กๆ 2$ รถไปส่งที่ถึงพัก)
Day 4
• เช็คเอ้า โรงแรม Prince D’ ankor รถโรงแรมมาส่งที่สนามบิน ใช้เวลาประมาณ 15 นาที เดินทางถึงสนามบิน รถไม่ติดเลย
• ออกเดินนทางจาก เสียมเรียบ – ดอนเมือง ประเทศไทย โดย สายการบิน Air asia / FD611/11.55 โดยสวัสดิภาพ
จบทริปการเดินทางอย่างสวยงาม กับทริปเสียมราฐ นครวัด นครธม เมืองมรดกโลกที่มีชื่อเสียง ที่ครั้งหนึ่งควรมาเยือนด้วยตัวเองสักครั้งในชีวิต
you must see angkor wat before you die “See Angkor and Die” ประโยคอมตะนี้ Arnold Joseph Toynbee นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีชาวอังกฤษเป็นผู้กล่าวไว้หลังจากที่ได้มาเยือนนครวัด