ลีไวน์รักไทยรีสอร์ท บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน
สวัสดีเพื่อนๆผู้ที่รักการท่องเที่ยวทุกคน วันนี้ไกด์พาไปจะพาทุกท่านเดินทางไปเที่ยวที่ ลีไวน์รักไทย รีสอร์ท บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน เที่ยวชมไร่ชาชื่อดังที่หมู่บ้านรักไทย แหล่งปลูกชาชั้นดี ที่มีคุณภาพ พร้อมบรรยากาศ โดยรอบสบายๆแบบชาวจีนยูนนาน ชิมอาหารท้องถิ่นที่น่าสนใจ รสชาติอร่อย มีให้เลือกหลากหลายเมนู ใครที่มีโอกาศได้แวะมาเที่ยวชม จะตกหลุมรักที่นี้อย่างแน่นอน
ดื่มด่ำกับธรรมชาติในบรรยากาศแห่งแมกไม้และขุนเขา เพียงแห่งเดียวที่คุณจะได้สัมผัสกับสายหมอกในยามเช้า ท่ามกลางไร่ชาพันธุ์ดี ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา ด้านหน้าเป็นทะเลสาบ มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและสายหมอกได้ในตอนเช้า อีกหนึ่งบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติคของลีไวน์รักไทย รีสอร์ท
และยังมีไวน์ผลไม้รสเลิศ และอาหารจีนยูนนานกว่า 70 เมนู จากร้านอาหารของทางรีสอร์ท สำหรับท่านที่ชื่นชอบการดื่มไวน์ทางรีสอร์ทมีไวน์ผลไม้ที่ทำเองแบบท้องถิ่นให้ลิ้มลองกันและสามารถนำไปเป็นของฝากได้หลากหลาย เช่น ไวน์ท้อ ไวน์พลัม ไวน์มะขามป้อม และไวน์สับปะรด ฯ เลือกชิมเลือกซื้อกลับไปได้ตามความชอบ ราคาไม่แพง
นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของลีไวน์รักไทย รีสอร์ทเลยนั้นก็คือ ชาอบแห้ง มากมายหลายรสชาติ ดื่มแล้วดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น ชาอูหลง ชายอดน้ำค้าง ชาเหมยลี่ ชาข้าวหอม ฯ ซึ่งแต่ละตัวก็มีสรรพคุณต่างกันออกไป อีกทั้งยังมีผลไม้อบแห้งอย่าง บ๊วย สตอเบอร์รี่ พลัม ท้อ เกากี๋ หรือ อัลมอนต์ แมคคาเดเมีย ให้เลือกซื้อกัยอย่างมากมายอีกด้วย
การเดินทางมา ลีไวน์รักไทย รีสอร์ท หมู่บ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
รถบัสโดยสารประจำทาง
จากกรุงเทพฯมาโดยรถบัสโดยสารประจำทาง กรุงเทพฯ-แม่ฮ่องสอน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 16 ชม. ค่ารถอยู่ที่ประมาณ 788 ต่อคน ถ้าจากเชียงใหม่จะใช้เวลาเดินทางมาแม่ฮ่องสอน ประมาณ 8 ชม. จากนั้นมาลงที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน และต้องหารถต่อมาลงที่คิวรถสองแถวเพื่อขึ้นหมู่บ้านรักไทย จะเป็นรถสองแถวสีเหลือง สาย แม่ฮ่องสอน-บ้านรักไทย มีรอบเวลา 8.00 น. และ 12.00 น. ขาขึ้นลีไวน์รักไทยรีสอร์ท บ้านรักไทย มีรอบเวลา 9.00 และ13.00 ราคาคนละประมาณ 150 บาท รถจะผ่านหน้า ลีไวน์รักไทยรีสอร์ท
เครื่องบิน
จากกรุงเทพฯต้องมาต่อเครื่องที่เชียงใหม่เท่านั้นเพื่อมาที่แม่ฮ่องสอน จะไม่มีเครื่องบินตรงจากกรุงเทพฯมาแม่ฮ่องสอน โดยมีแค่สองสายการบินที่ให้บริการได้แก่ บางกอกแอร์เวย์ และ กานต์แอร์ ของบางกอกแอร์เวย์จะเป็นเครื่องบินเล็ก ภายในสไตล์ใหม่ ของกานต์แอร์ ก็เป็นเครื่องบินเล็กแบบ 12 ที่นั่งสามารถมองเห็นห้องกัปตันได้ ราคาจะถูกกว่า ใช้เวลาบินมาเชียงใหม่ 30 นาที
วิธีต่อรถไปลีไวน์รักไทย รีสอร์ท หมู่บ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
1. เช่ารถขับเองจะใช้เวลาขึ้นมาถึงลีไวน์รักไทย รีสอร์ท บ้านรักไทย ประมาณ 1 ชม. ( GPS 19.585312,97.942481)
2. เหมารถของลีไวน์รักไทย รีสอร์ท ไปรับ-ส่ง ที่สนามบิน ราคาเที่ยวละ 1,200 บาท ถ้าจะให้พาเที่ยวราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,800 บาท(รวมค่าน้ำมันและคนขับแล้ว) สามารถนั่งได้ 1-10 คน
3. นั่งรถสองแถวสาธารณะขึ้นมา(สีเหลือง แม่ฮ่องสอน-บ้านรักไทย) จากหน้าสนามบินแม่ฮ่องสอนต้องหารถต่อมาลงที่คิวรถสองแถวเพื่อขึ้นหมู่บ้านรักไทย ขาลงจากลีไวน์รักไทยรีสอร์ท บ้านรักไทย มีรอบเวลา 8.00 น. และ 12.00 น. ขาขึ้นลีไวน์รักไทยรีสอร์ท บ้านรักไทย มีรอบเวลา 9.00 และ13.00 ราคาคนละประมาณ 150 บาท รถจะผ่านหน้า ลีไวน์รักไทยรีสอร์ท ถ้าไม่แน่ใจก็บอกคนขับไว้ตอนขึ้นก็ได้ เขาจะได้จอดส่งเราถูกจุด
สถานที่ท่องเที่ยวที่ผ่านระหว่างขึ้นไปหมู่บ้านรักไทย ที่เที่ยวที่น่าสนใจในแม่ฮ่องสอน
ภูโคลน รีสอร์ท
แวะแช่น้ำแร่ หมักโคลนธรรมชาติ ที่ขึ้นชื่อและเป็นสินค้า OTOP ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
น้ำตกผาเสื่อ
เยี่ยมชมถ่ายรูปความสวยงามของน้ำตก จากธรรมชาติ ที่มีน้ำไหลผ่านโขดหินมากมาย
พระตำหนักปางตอง
ชมกิจกรรมเกี่ยวกับแกะ เลี้ยงแกะ ให้อาหารแกะ การตัดขนแกะ การทอผ้าขนแกะด้วยมือ
ปางอุ๋ง-แม่ฮ่องสอน
บ้านรักไทย สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทยในแม่ฮ่องสอน แวะเยี่ยมชมความงามของป่าสนและหงษ์ดำคู่
ติดต่อบ้านพัก ลีไวน์รักไทย รีสอร์ท บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน
คุณ วชิราภรณ์ ลีพัฒนกิจเจริญ (ฟ้า)
เบอร์โทร. 089-950-0955 , 089-262-1335 , 081-999-1889
อีเมล์. Leewinerukthai@hotmail.com
โอนเงินผ่าน
เลขบัญชี 285-2-17814-3 (รีสอร์ท) ธนาคารกสิกรไทย สาขาแม่ฮ่องสอน
เลขบัญชี 285-2-21412-3 (ชา) ธนาคารกสิกรไทย สาขาแม่ฮ่องสอนห
ปล. ต้องโทรมาจองห้องพักก่อนแล้วถึงจะโอนค่ามัดจำห้องพัก เมื่อโอนเงินค่ามัดจำห้องพักแล้วอย่าลืมเก็บใบเสร็จการโอนเอาไว้ด้วย ใช้แสดงกับพนักงานตอนจ่ายค่าห้องส่วนที่เหลือ
เที่ยวไร่ชาที่ ลีไวน์รักไทย รีสอร์ท หมู่บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน
เมื่อรถส่งเราลงหน้าลีไวน์รักไทย รีสอร์ท หมู่บ้านรักไทยแล้วเราก็จ่ายค่ารถ แล้วเอากระเป๋าสัมภาระเราเดินไปเช็คอินที่หน้าเค้าเตอร์ด้านขวาข้างในรีสอร์ท จะมีพนักงานต้อนรับอยู่ที่นั้น เราก็บอกชื่อที่เราจองมา กี่คน กี่ห้อง พนักงานจะเช็คห้องแล้วเอากุญแจให้เรา ตรงนี้ เราต้องเสียค่ามัดจำกุญแจห้องพักด้วย 200 บาทต่อกุญแจหนึ่งห้อง
เมื่อเอากุญแจมาคืน ทางรีสอร์ทก็จะคืนค่ามัดจำให้เรานั้นเอง ห้องพักสามารถเช็คอินได้ช่วงหลังเวลาบ่ายสองเป็นต้นไป ถ้าไปถึงห้องพักเร็วก็ยังเข้าห้องไม่ได้ ต้องรอจนกว่าพนักงานจะทำความสะอาดเสร็จ เนื่องจากที่นี้ห้องพักเต็มเกือบทุกวัน ยิ่งช่วงวันหยุดและเทศกาลสำคัญต่างๆ นักท่องเที่ยวจะมามากกว่าวันปกติ
ได้กุญแจแล้วจะมีพนักงานมาช่วยยกกระเป๋าเรา ถ้าเราสะดวกก็ถือขึ้นไปเองจะเร็วกว่า เดินขึ้นไปที่ห้องพักตามชื่ห้องที่ได้ จะมีป้ายบอกทางไปแต่บะห้องอยู่ และพนักงานที่มาช่วยถือกระเป๋าจะช่วยพาเราเดินไปยังห้องพักอีกคนหนึ่ง ที่นี้มีบ้านพักประมาณ 19 หลัง แต่ละหลังสามารถนอนรวมกันได้ประมาณ 4 คนขึ้นไป ราคาคนละ 400 บาท ต่อคืน รวมอาหารเช้าของทางรีสอร์ทแล้ว พนักงานจะให้คูปองอาหารเช้ามาพร้อมกุญแจห้องพัก
เข้าห้องพักแล้วเก็บกระเป๋านั่งพักเหนื่อยให้หายเหนื่อยที่ระเบียงหน้าบ้านพัก หันหน้าออกไปจะเห็นไร่ชาของรีสอร์ทที่ปลูกเป็นขั้นบันไดยาวลงไป สีเขียวชอุ่ม และวิวทะเลสาบของหมู่บ้านรักไทยที่อยู่ไม่ไกลออกไป หน้าระเบียงบ้านพักจะมีโต๊ะเก้าอีนั่งเล่นอยู้ สามารถไปนั่งพักผ่อนหย่อนใจ ชมความสวยงามของไร่ชาแห่งนี้ได้ หรือจะออกมาถ่ายรูปบรรยากาศไร่ชาและพื้นที่บริเวณรอบๆบ้านพัก ก็มีหลายมุมถ่ายรูปน่ารักๆไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เล่นกัน อาหกาศที่นี้จะไม่ร้อนมากนัก ยิ่งช่วงเย็นกับตอนเช้าอากาศจะมีมาก มีลมเย็นพัดผ่านด้านหน้าบ้าน สดชื่นเย็นสบาย เป็นบ้านพักท่ามกลางไร่ชาจริง
ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไว้บริการแก่ผู้เข้าพัก ไม่แพกับโรงแรมระดับห้าดาวต่างๆเลย เช่น ผ้าขหนู ผ้าเช็ดผม ผ้าเช็ดเท้า รองเท้าใส่ในห้องพัก กระติกต้มน้ำร้อน ชา ตู้เย็น ทีวี พัดลม ตะเกียงไฟฟ้า ร่ม แปรงสีฟัน หมวกอาบน้ำ สบู่ ที่ปั่นหู ทิชชู่ ฯ ตามจำนวนคนที่พักแต่ละห้อง ถือเป็นอีกหนึ่งความประทับใจภายในห้องพักของนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการลีไวน์รักไทย รีสอร์ท หมู่บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน
ด้านที่นอน ทางลีไวน์รักไทย รีสอร์ท เลือกใช้ที่นอนอย่าดี บนเตียงใหญ่ มีความนุ่มสบาย หมอนหนุนที่นุ่มนอนสบายหัว และหมอนพิงที่เอามากอดนอนได้ ผ้าห่มผืนใหญ่สำหรับสองคนห่มแล้วอบอุ่นเวลาหลับตอนกลางคืน ชุดผ้าปูที่ใช้ก็เป็นแบบเดียวกับที่โรงแรมทั่วไปใช้กัน ไม่เป็นขุยไม่คัน ทำให้นักท่องเที่ยวที่ได้มาพัก รู้สึกหลับสบาย เสมือนนอนหลับอยู่ที่บ้านตัวเอง ถึงจะเป็นรีสอร์ทที่อยู่บนดอย แต่ก็มีมาตฐานการตกแต่งที่ไม่แพ้กับโรงแรมห้าดาวเลยจริงๆ
ส่วนของห้องน้ำด้านในสะอาดเป็นสัดส่วน มีโถชักโครก สายฉีด กระดาษชำระ และถังขยะ ฝั่งที่าบน้ำจะมีฝักบัว เครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้แก๊ส เนื่องจากในช่วงหน้าหนาวอากาศจะหนาวมาก เครื่องทำน้ำอุ่นแบบธรรมดา น้ำจะร้อนช้า ถ้าเป็นเครื่องทำน้ำอุ่นแบบนี้น้ำจะร้อนไวกว่าและอุ่นกว่า สามารถอาบน้ำได้ในช่วงหน้าหนาว และด้านข้างติดกันยังมีกระจก อ่างล้างหน้า และของใช้ส่วนตัวในห้องน้ำเช่น แปรงสีฟัน หมวกคลุมผม ที่ปั่นหู สบู่ เป็นต้น พื้นห้องน้ำเป็นแบบปูกระเบื้องทั่วไป ใหม่ สะอาด หลังคาและกำแพงห้องน้ำ ทำปิดแบบมิดชิด แมลงและสัตว์เล็กอื่นๆไม่สามารถเข้ามาได้
เมื่อนักท่องเที่ยวเดินออกมาทางด้านหน้าลีไวน์รักไทย รีสอร์ทด้านซ้ายมือ จะมีในส่วนร้านอาหารและร้านกาแฟของทางรีสอร์ท ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวที่มา สามารถมานั่งทานอาหารเช้าของโรงแรมได้ที่นี้คอนเช้าจะมีแค่ข้าวต้มหมู กับหมั่นโถทอด กับนมข้นให้จิ้ม ชาร้อน กาแฟร้อน และโอวัลติน สามารถเติมได้ไม่จำกัด อย่าลืมนำคูปองมาให้พนักงานด้วย
ส่วนอาหารอื่นไก็จะเสียเงินตามราคาในเมนูของรีสอร์ท หากใครไปถึงที่พักแล้วรู้สึกกำลังหิว แนะนำให้มาลองสักมื้อที่ร้านอาหารลีไวน์รักไทย รีสอร์ท เพราะที่นี้มีเมนูสูตรของชาวจีนยูนนานให้เลือกมากกว่า 70 เมนู เป็นเมนูที่แปลกและอร่อยด้วย บรรยากาศด้านในคือจะเป็นวิวติดทะเลสาบหมู่บ้านรักไทยแบบมุมกว้าง และยังมีภูเขาให้เห็นอยู่ไกลๆ
เมื่อเรานั่งลงที่โต๊ะแล้ว พนักงานจะนำชาร้อนมาเสิร์ฟเรา สองรสชาติ อันนี้ที่ได้ลองคือ ชายอดน้ำค้างและชาโสมอูหลง กระบอกเล็กที่อยู่ในถ้วยชาเอาไว้เทน้ำเพื่อลวกแก้วชาที่จะดื่ม เมื่อลวงเสร็จแล้วก็เทกลับไปที่กระบอกเหมือนเดิม จากนั้นก็เทชาร้อนในกาดื่มได้ตามปกติ ว่าแล้วเราก็มาสั่งอาหารกันเลยรอบนนี้ขอลองสักสองเมนูได้แก่ ซี่โครงหมูสูตรยูนนาน คือน้ำซอสที่ราดมาเข้มข้นอร่อยมาก หอม และมีรสเผ็ดหน่อยๆเนื้อซี่โครงหมูค่อนข้างนุ่ม ทานคู่กับข้าวสวยร้อน สามารถสั่งแบบถ้วย(กินคนเดียว) หรือแบบโถ(กินหลายคน) ก็ได้
และอีกเมนูขึ้นชื่อยอดนิยมของทางลีไวน์รักไทย รีสอร์ท ที่ใครมาแล้วต้องลองได้แก่ ยำใบชา มีผักเคียงเป็นใบชาด้วย ลักษณะคือ เขาจะหั่นใบชาแล้วเอาไปยำรวมกับน้ำยะแบบทั่วไป มีหมูสับ หอมแดง มะเขือเทศ รวมอยู่ด้วย รสชาจะไม่เหมือนยำแบบอื่นๆ คือ จะได้กลิ่นชาอ่อนๆ ออกรสชานิดๆ ใบชาจะรสมันๆ ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้เราความนิยมจากท่องเที่ยวที่มา นอกจากนี้ยังมีอาหารเมนูอื่นๆอีก เช่น หมั่นโถทอด ซุปเยื่อไฝ่ ฯลฯ
อยู่ถัดไปก็จะเป็นร้านกาแฟและเครื่องดื่มของลีไวน์รักไทย รีสอร์ท ด้านในเป็นแบบอาหารสองชั้น ทางรีสอร์ทเพิ่งต่อเติมชั้นที่สองเสร็จไปได้ไม่นาน ออกแบบและตกแต่งในสไตล์จีน มีมุมถ่ายรูปน่ารักอยู่ด้านหน้าทางเข้าร้าน ที่นี้ขายเครื่องดื่มร้อน-เย็น ประเภท กาแฟสด ชา โกโก้ฯ นอกจากนี้ยังมีโต๊ะเขียนโปสการ์ด โปสการ์ด สแตมป์ จำหน่ายให้นักท่องเที่ยว เขียนเสร็จแล้วนำมาหย่อนได้เลยที่ตู้ไปรษณีย์ด้านซ้ายมือของร้านกาแฟ
เมื่อสั่งเครื่องดื่มเสร็จแล้วเข้ามานั่งด้านในจะเป็นวิวติดทะเลสาบ แบบเดียวกับร้านอาหาร สามารถมานั่งจิบกาแฟชมวิวความสวยงามที่อยู่ตรงหน้าได้แบบฟินๆเลยทีเดียว เครื่องดื่มที่นี้ราคาเริ่มต้นที่ 50 บาท ด้านข้างจะมีบันได้ขึ้นไปชั้นที่สอง ด้านบนจะมีโต๊ะนั่งแบบชุด ทำจากไม้เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของที่นี้ ตกแต่งแบบผสมผสานความคลาสสิคโมเดิล ถือว่าเป็นการมานั่งจิบกาแฟพักผ่อนเลยจริงๆ มีมุมหนังสือ และมุมถ่ายรูปมากมาย
หากใครที่อยากลองอาหารท้องถิ่นแบบบ้านๆก็มีให้เลือกลอง เมนูนี้มีชื่อว่า กวาเม็งแห้ง+แคปหมู เสริฟ์คู่กับซุปร้อนๆหอมมาก เป็นก๋วยเตี๋ยวสไตล์ยูนนาน ที่ใช้เส้นข้าวซอย มาปรุงกับซอสราดที่ร้านทำเองโรยมาด้วยหมูสับด้านบน กินคู่กับกับแคปหมู อร่อยมาก รสชาติจะเหมือนผัดหอยหลายผสมน้ำพริกอ่อง จัดว่าเด็ดมาก ราคาจานละ 30 บาท พิเศษ 35 บาท แคปหมู 5 บาท
ที่นี้ยังมีเมนูอื่นๆให้ลองอีกเช่น กวาเม็งน้ำ ยำเมี่ยง เกาเหลาหมูตุ๋นฯ ในภาพที่เห็นเราของคุณป้าเพิ่มหมูตุ๋นมา เนื่งจากตุ๋นได้เปื่ยและอร่อยมาก ซึ่งปกติคุณป้าจะเอาไว้ใส่กับเมนูเกาเหลาเท่านั้น อันนี้ก็เสียเพิ่มไปตามธรรมเนียม พิกัดร้าน ออกจากด้านหน้าลีไวน์รักไทย รีสอร์ท อยู่ด้านขวามือ เป็นซุ้มร้านเล็กที่มีโต๊ะนั่งกินิยู่ด้านใน มีป้ายเมนูอาหารให้เลือกอยู่หน้าร้าน ราคาเบาๆกระเป๋า
อีด้านหนึ่งของทะเลสาปเราสามารถออกมาเดินชมความสวยงามรอบทะเลสาบของหมู่บ้านรักรักแห่งนี้ได้อีก จะเห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบทั่วไปของผู้คนที่นี้ มีโรงเรียนร้านขายของ ศาลเจ้า มีบ้านเรียงรายทั่วไป พิ้นเป็นพิ้นปูนเททับดินแดง ทางเดินบางจุดลาดชัน ต้องระวังรถที่ขับสวนมา
ส่วนนักท่องเที่ยวคนไหนที่ไม่อยากเดิน อยากจะปั่นจักยานชมบรรยากาศรอบๆหมู่บ้านรักไทย ทางลีไวน์รักไทย รีสอร์ทก็มีบริการจักยานเช่าราคาไม่แพง หากเราพักที่ลีไวน์รักไทย รีสอร์ท จะราคาคันละ 20 บาท แต่ถ้าไม่ได้พักที่นี้จะราคาคันละ 40 บาท หนึ่งคนหนึ่งคัน ห้ามซ้อนสอง ติดต่อได้ที่พนักงานด้านหน้ารีสอร์ท จุดเดียวกับที่เราไปเช็คอินรับกุญแจตอนแรก
จ่ายเงินได้เลย แล้วเดินไปเลือกจักรยาน ใครอยากใส่งอบสามารถหยิบไปใส่ได้เลยไม่เสียค่าใช่จ่ายแต่ห้ามทำหายและชำรุด เวลามาคืนก็นำไปจอดไว้ที่เดิม ตรงที่เราไปเอามาตอนแรก ไม่มีค่ามัดจำใดๆของจักยาน ตอนที่ขี่เที่ยวชมต้องระมัดระวังรถเพราะถนนค่อนข้างแคบ และระวังพื้นลื่นเนื่องจากถนนบางจุดมีดินโคลน และดินทราย อีกทั้งและจุดลาดเนิน ไม่ควรใช้ความเร็วในการปั่นอาจจะเกิดอันตรายได้
ก่อนกลับอย่าลืมแวะซื้อของฝากที่ลีไวน์รักไทย รีสอร์ท ภูมิใจนำเสนอแก่นักท่องเที่ยว มีผลิตภัณฑ์จำหน่ายมากมาย สามารถเดินเลือกชิมเลือกซื้อได้ตามความต้องการ อาทิเช่นผลไม้อบแห้งต่าง มะม่วง กีวี่ สตอเบอร์รี่ เก๋ากี๋มะขาม ลูกพรุน ถั่ว อัลมอนด์ แมคคาเดเมีย เม็ดมะม่วง ถั่วเหลืองคั่ว ฯ เลือกได้ว่าอยากจะซื้อกี่ขีดหรือซื้อเป็นกิโลก็ได้
และผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อเลยนั้นก็คือ ชา ที่มีให้เลือกหลากหลายสายพันธุ์ หลากหลายรสชาติ และชาแต่ละตัวก็มี สรรพคุณและประโยชน์ของชา ที่แตกต่างกันออกไป เราสามารถขอชิมชาได้ที่พนักงานขายด้านใน ราคาไม่แพง มีแบบห่อเล็ก ห่อใหญ่ และยังมีอุปกรณ์การชงชา ถ้วยชา กา แก้วชา กระบอกใส่ชา ฯ ใครที่ชื่นชอบในการดื่มชาต้องไม่พลาดแน่นอน
อีกหนึ่งของฝากที่ขึ้นชื่อของลีไวน์รักไทย รีสอร์ท นั้นก็คือไวน์ผลไม้ที่ทางรีสอร์ทได้คิดสูตรทำขึ้นมาเอง มีให้เลือกประมาณ 4 รสชาติ ราคาขวดละ 200 บาท สามารถขอชิมได้ที่จุดชิมไวน์ด้านหน้า ชอบรสไหนก็ซื้อรสนั้น จะมีสูตรหวานกับไม่หวาน เลือกได้ตามรสนิยมของผู้ซื้อ ถ้าซื้อดื่มเลยที่รีสอร์ทจะมีถังแช่ไวน์ให้ด้วย ไวน์ผลไม้ของลีไวน์รักไทย รีสอร์ท ถือเป็นอีกหนึ่งของฝากยอดนิยมและเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของหมู่บ้านรักไทยด้วย