สถานที่ท่องเที่ยวในฮ่องกง
ฮ่องกง หรือที่เรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่า”เขตบริหารพิเศษฮ่องกง“ภายใต้การปกครองของสาธารณะรัฐประชาชนจีน เป็นดินแดนที่อยู่ตอนปลายสุดทางทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนอยู่ติดกับมณฑลกวางตุ้ง เดิมทีฮ่องกงเป็นแหล่งปลูกไม้หอมส่งขายเป็นสินค้าส่งออก
กระทั่งกับตันเรือของอังกฤษแล่นเรือผ่านบริเวณพื้นที่แหลมเกาลูน กลับได้กลิ่นหอมดังกล่าว จึงได้ขึ้นฝั่งเพื่อไปสอบถามชาวบ้านได้ความว่า บริเวณแห่งนีเป็นท่าเรือที่ใช้ขนส่งไม้หอม เมื่อกัปตันกลับสู่ประเทศตัวเอง ก็ได้ส่งคนมาประจำการเป็นฝ่ายพาณิชย์ในภาคพื้นเแเชียที่ฮ่องกง ประกอบกับในช่วงเวลานั้นอังกฤษกำลังล่าอณานิคมสู่แถบทะเลจีนใต้ อีกทั้งยังมีปัยหาอยู่กับประเทศจีน
เป็นสาเหตุทำให้เกิดสงครามฝื่นบริเวณเกาะฮ่องกงจากนั้นอังกฤษได้ยกพลขึ้นสู่ดินแดนแล้วประกาศให้เป็นของอังกฤษสำเร็จเมื่อปี ค.ศ. 1841 ในการนี้อังกฤษได้บังคับให้จีนทำศัญญาให้กับอังกฤษเช่าฮ่องกงทั้งเกาะเป็นเวลา 99 ปี โดยสัญญานี้หมดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 1997 ที่ผ่านมา
ปัจจุบันฮ่องกงถือเป็นจุดยทธศาสตร์สำคัญในด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของสาธารณะรัฐประชาชนจีน ผลส่วนหนึ่งมาจากที่อังกฤษได้วางรากฐานความเจริญไว้ให้เพียบพร้อม ทั้งระบบรถไฟฟ้า การคมนาคมต่างๆ ระบบเศรษฐกิจและอิทธิพลทางด้านภาษาอังกฤษ ที่ทำให้ชาวฮ่องกงสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วกว่าคนในพื้นที่อื่นๆของจีน โดยเฉพาะเด็กๆในสมัยใหม่
ภาษาท้องถิ่นที่ใช้กันส่วนใหญ่คือ จีนกวางตุ้งและจีนกลางฮ่องกงแบ่งออกได้เป็น 4 โซนหลักๆ ซึ่งประกอบไปด้วย เกาะฮ่องกง เขตเกาลูน เกาะลันตา เขตดินแดนใหม่ และยังมีเกาะเล็กๆราว 235 เกาะ ถึงฮ่องกงจะเป็นเพียงดินแดนเล็กๆแต่ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วิถีชีวิต และความทันสมัยต่างๆ เป็นมนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยือน ค่าเงินของฮ่องกงใช้ ฮ่องกงดอลล่าร์(HK$) ซึ่งเมื่อเทียบกับ 1(HK$) = 4.54 บาท (กุมภาพันธ์ 59)
ฤดูการในฮ่องกงจะมีด้วยกัน 4 ฤดู
1. ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-กลางพฤษภาคม) อุณหภูมิโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 17-26 องศา คนไทยนิยมไปเที่ยวในช่วงนี้เป็นอย่างมากเนื่องจากตรงกับเทศกาลซาลาเปาที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่
2.ฤดูร้อน-ฤดูฝน (ปลายพฤษภาคม-กลางกันยายน) อุณหภูมิโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 26-31 องศา นักช้อปทั้งหลายจะเดินทางไปกันช่วงนี้เนื่องจากมีเทศกาล Mid years sale หรือ Hong kong Shopping festival
3.ฤดูใบไม้ร่วง (ปลายกันยายน-ต้นธันวาคม) อุณหภูมิโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 19-28 องศา อากาศแจ่มใสไม่หนาวไม่ร้อน หลายครอบครัวเดินทางไปกันในช่วงนี้เนื่องจากลูกๆได้ปิดเทอมแล้ว
4.ฤดูหนาว (กลางธันวาคม-กุมภาพันธ์) อุณหภูมิโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 12-20 องศา เป็นช่วงที่หนาวที่สุดของฮ่งกงทั้งเมืองเต็มไปด้วยสีสันและมีเทศกาลสำคัญต่างเช่น คริสมาส ปีใหม่ ตรุษจีน ฯ นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกจะมากันเป็นจำนวนมาก
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในฮ่องกง สถานที่เที่ยวในฮ่องกง
วิคตอเรียพีค (Victoria Peak)
ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง 552 เมตร แต่เดิมเป็นเพียงพลับพลาเท่านั้น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ได้ถูกระเบิดทำลายจึงได้มีการสร้างอาคารรูปกล่อง 2 ชั้นขึ้นมาใหม่ และตั้งชื่อว่า “พีคทาวเวอร์ “ก่อนจะรื้นถอนอาคารหลังเก่าและสร้างอาคารหลังใหม่เป็นรูปชาม ขนาด 7 ชั้นขึ้นในปี ค.ศ. 1993 ภายในพีคทาวเวอร์ถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วนเช่น ร้านอาหารนานาชาติ ร้านขายสินค้าที่ระลึก สินค้าแฟชั่นต่างๆ นอกจากนี้ภายในอาคารยังมีพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ และจุดชมวิวตึกระฟ้าที่มองเห็นวิวได้ถึง 360 องศาเลยทีเดียว ด้านหน้าพีคทาวเวอร์ มีลักษณะเป็นเก๋งจีน อีกหนึ่งมุมยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะสามรถมองเห็นวิวเกาะฮ่องกงได้สวยงามเป็นอย่างมากอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด
พีคแทรม (Peak Tram)
รถรางที่มีอายุยาวนานมากกว่า 120 ปี เปิดให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ.1888 มีระยะทาง 1.4 กม. ใช้เวลา 8 นาที เดิมเป็นรถรางใช้พลังงานไอน้ำในการขับเคลื่อน แต่ในปี ค.ศ.1926 ก็ได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นระบบเกียรไฟฟ้า และเปลี่ยนเป็นการควบคุมด้วยระบบไมโครโพรเซสเซอร์ ซึ่งมีประสิทธิภาพความปลอดภัยสูงวิ่งจกพื้นล่างขึ้นไปสู่ยอดเขาวิคตอเรียพีค โดยรถรางสายนี้จะวิ่งทำมุม 45 องศา สามรถมองเห็นวิวอีกแบบหนึ่งของเกาะฮ่องกง อ่าววิคตอเรีย และฝั่งเกาะเกาลูนที่สวยงาม(* รถรางเป็นสัญลักษณ์ของเกาะฮ่องกง มีความคลาสสิคและสวยงาม เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของที่นี้ เป็นเรื่องไม่แปลกที่เราจะสามารถมองเห็นรถรางทั่วไปบริเวณเกาะฮ่องกง โดยเฉพาะใจกลางความเจริญอย่างย่านเซ็นทรัลนั้นเอง)
สกายเทอร์เรซ 428 (Sky Terrace 428)
ตั้งอยู่บนชั้นบนสุดของอาคารพีคทาวเวอร์ บนระดับความสูง 428 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สามรถชมวิวทิวทัศของตึกสูงระฟ้าในเกาะฮ่องกงได้แบบพาโนราม่า โดยจะเพราะในช่วงกลางคืนซึ่งจะเห็นสีสันของไฟที่ติดประดับแต่ละตึกในฮ่งกง ซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้กันเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวจะนิยมไปกันช่วงเย็นๆเพื่อไปรอดูพระอาทิตย์ตกดิน
หากมาในช่วงค่ำคนจะเยอะมากเลยทีเดียว เหล่าบรรดานักถ่ายภาพต่างๆจะมารอเพื่อเก็บภาพสวยๆในช่วงเวลนี้อีกด้วย ถ้าหากนักท่องเที่ยวที่มาในช่วงฤดูหนาวแนะนำให้ติดเสื้อกันหนาวขึ้นไปด้วย เพราะด้านบนอากาศเย็นมากๆ ที่นี้เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของจุดชมวิวในฮ่องกงที่นักท่องเที่ยวนิยมมา และห้ามพลาด..
อาคารสำนักงานใหญ่ เอชเอสบีซี (HSBC)
เปิดให้บริการครั้งแรกในปี ค.ศ.1865 มีความสูง 178.80 เมตร อาคารแห่งนี้สร้างขึ้นตามหลักฮวงจุ้ยล้วนๆ ได้แก่บริเวณหน้าอาคารมีลานพื้นที่กว้างไว้ให้รวมพลังก่อนเข้าสู่อาคาร ทั้งยังมีน้ำจากอ่าววิคตอเรียอยู่เบื้องหน้าอีกด้วย เป็นจุดบรรจบของเส้นทางมังกรทั้ง 5 ถือว่าเป็นที่ที่มีฮวงจุ้ยดีที่สุดในฮ่องกงตามหลักความเชื่อของศาสตร์ฮวงจุ้ย ชั้นบนสุดของอาคารมีปืนใหญ่เอาไว้ยิงแก้เคล็ดอาคาร HSBCอีกด้วย
นอกจากนี้บริเวณด้านล่างทางเข้าอาคารยังมีรูปปั้นสิงโตขนาดใหญ่ 2 ตัว ตั้งอยู่สองฝั่งซ้าย-ขวา มีความหมายว่าการคำรามและความสงบนิ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีอีกหนึ่งความเชื่อที่ว่า หากผ่านไปผ่านมาบริเวณนั้นแล้วได้ลูบบริเวณเท้าของสิงโตทั้งสองตัวนี้ จะมีแต่โชคลาภและความมงคลมาสู่ชีวิต
อาคารแบงค์ออฟไชน่า (Bank of China)
เป็นอาคารที่สูงเป็นอันดับที่ 4 ของฮ่องกง และสูงเป็นอันดับที่ 25 ของโลก ด้วยความสูง 367.40 เมตร มีทั้งหมด 70 ชั้น สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรม จีน-อเมริกัน ก่อนจะสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1990 โดยตัวอาคารนั้นมีรูปทรงเหมือนดาบแหลมขนาดใหญ่ มีเหลี่ยมมีมุมแหลมอยู่รอบด้าน ส่วนเสาสูงด้านบนที่มีรูปร่างคล้ายหนวดแมลง
มีไว้เพื่อสื่ถึงพลังอำนาจความเจริญรุ่งเรืองให้กับอาคารหลังนี้ สาเหตุที่ชั้นบนสุดของอาคาร HSBC ที่มีปืนใหญ่ด้วยก็เพราะว่าเป็นการแก้ฮวงจุ้ย เพราะตึก Bank of China แห่งนี้ดันสร้างออกมาคล้ายดาบแหลม เค้าจึงเอากระบอกปืนมายิงแก้เคล็ดนั้นเอง ทั้งนี้อาคารแบงค์ออฟไชน่าได้เปิดให้บุคคลทั่วไปขึ้นไปชมวิวที่ชั้น 43 อีกหนึ่งอาคารสำคัญในเกาะฮ่องกงที่มีชื่อเสียง
ซิมโฟนี่ออฟไลท์ มัลติมีเดียโชว์ (A Symphony of Light Multimedia Show)
การแสดงแสงสีเสียงยามค่ำคืน ที่ใหญ่ที่สุด จะบรรเลงความสวยงามตระการตาของตึกสูงระฟ้ากว่า 30 ตึก ริมอ่ววิคตอเรียทั้งจากฝั่งฮ่องกงและฝั่งเกาลูน ด้วยสเปเชี่ยลเอ็ฟเฟ็กประกอบการแสดงแสงเลเซอร์พร้อมกันตามจังหวะเสียงเพลง ใช้เวลในการแสดงประมาณ 15 นาที เริ่อมการแสดงในเวลา 20.00 น. ตรง ทุกวัน
ในช่วงเวลาพิเศษต่างๆจะมีการแสดงที่พิเศษกว่าเดิมคือ จะมีการจุดพลุตามยอดตึกต่างๆ เช่นวันเฉลิมฉลองวันชาติของจีน หรือวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ อีกทั้งที่นี้ยังเป็นสถานที่จัดงานนับถอยหลังก้าวสู่ศักราชใหม่ ซึ่งในทุกๆปีจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากหลายชาติ ให้มารวมตัวกันอย่างมากมายเพื่อรอชมความสวยงามอลังการของพลุที่นี่
หอนาฬิกา (Clock Tower)
มีอายุมากกว่า 100 ปี ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1910 เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำสถานีรถไฟเกาลูน-กวางตุ้ง แต่เมื่อย้ายสถานีรถไฟไปอยู่ที่ฮุงฮอม ในปี ค.ศ.1970 หอนาฬิกาแห่งนี้จึงถูกปล่อยทิ้งไว้ และตอนนี้ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์อันโดเด่นของย่านจิมซาจุ่ย
ถือเป็นอีกหนึ่งมุมสุดฮิตของนักท่องเที่ยวที่ชท่นชอบมาถ่ายรูปกัน หรือมานั่งเล่นรับลมเดิมชมบรรยากาศความสวยงามริมอ่าววิคตอเรีย ส่วนมากผู้คนที่นี้จะมานั่งเล่นกันในช่วงยามเย็นอีกทั้งยังสามารถรอชมพระอาทิตย์ตกดินซึ่งมีความโรแมนติคไปอีกแบบ บางช่วงเวลาที่มานักท่องเที่ยวสามารถเห็นเรือสำเภาแดงซึ่งเป็นเรือของบริษัทฯทัวร์แล่นผ่านริมอ่าวอีกด้วย อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของฮ่องกงที่สวยงาม
อเวนิวออฟสตาร์(Avenue of Star)
ถนนแห่งดวงดาวที่แรกในเอเชีย ซึ่งได้เลียนแบบมาจากถนนคนดังของฮอลลีวูด เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ถึงการเติบโตของวงการหนังในฮ่องกง ในช่วงปี ค.ศ. 1900-1990 โดยตลอดเส้นทางนั้น นักท่องเที่ยวจะเห็นรอยมือประทับพร้อมลายเซ็น ของดาราชื่อดังในฮ่องกง เช่น เฉินหลง,เจ็ท ลี ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีรูปปั้น บรู๊ซ ลี
อีกทั้งยังมีร้านขายของที่ระลึก ร้านขายอาหาร ร้านขายขนม และประติมากรรมเกี่ยวกับภาพยนตร์ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกันอีกมากมายริมอ่าววิคตอเรีย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว อีกทั้งบริเวณนี้ยังสามารถมาเดินเล่นพักผ่อน ชมความสวยงามของเกาะฝั่งฮ่องกงและบริเวณริมอ่าววิคตอเรียได้ทั้งกลางวันกลางคืนเลยทีเดียว
1881 เฮอร์ริเทจ (1881 Heritage)
อาคารเก่าแก่ที่สำคัญสไตล์วิกตอเรียน อายุร่วม 130 ปี สามรถสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอความคลาสสิคของตัวอาคารที่ยังหลงเหลืออยู่ ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกใช้เป็นสำนักงานใหญ่ของตำรวจน้ำในฮ่องกงมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1880
จนกระทั้งปี ค.ศ. 1996 อาคารแห่งนี้ก็ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งระดับหรูแบรนด์พรีเมี่ยม โรงแรมสไตล์บูติกอย่างฮุลเล็ตต์เฮ้าส์ รวมถึงสถานที่จัดงานและนิทรรศการสำคัญต่างๆ
พร้อมทั้งยังเป็นสถานที่ถ่ายภาพสวยๆของนักท่องเที่ยวที่มา ทั้งนี้ที่นี้ยังถูกขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถาน ภายใต้กฎหมายคุ้มครองโบราณสถานและโบราณวัตถุของฮ่องกงอีกด้วย อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหอนาฬิกา สามารถเดินได้ถึงกัน
สกาย 100 (Sky 100 Observation Deck)
อยู่ในอาคาร ไอซีซี ซึ่งถูกจัดอันดับว่าสูงที่สุดในฮ่องกง และสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก ตัวอาคารมีความสูงถึง 484 เมตร สกาย100 ตั้งอยู่ที่ชั้น 100 เป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ที่มีความสูง 393 เมตร นักท่องเที่ยวที่มาสามรถชมวิวตึกมุมสูงและโค้งน้ำของอ่าววิคตอเรียได้ถึง 360 องศา
ตลอดจนพลุและดอกไม้ไฟที่จะจัดขึ้นในช่วงวันสำคัญเช่นวันปีใหม่ อีกทั้งยังมีนิทรรศการต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้เดิมชมอีกด้วย อาทิเช่น ย้อนอดีตฮ่องกงกับระบบมัลติมีเดีย 3 มิติ,วางแผนกินเที่ยวในฮ่องกง ข้อมูลการท่องเที่ยว หรือ ข้อมูลเมืองฮ่องกงผ่านหน้าจอทัชสกรีน นอกจากนี้อาคารนี้ยังเป็นสำนักงาน ร้านอาหารสุดหรู โรงแรมระดับ 5 ดาวเดอะริชคาน์ตัน ฯลฯ
กระเช้านองปิง (360 Nong Ping 360)
การเดินทางขึ้นไปกราบสักการะพระใหญ่และหมู่บ้านนองปิง นักท่องเที่ยวสามรถโดยสารกระเช้าลอยฟ้า นองปิง 360 วึ่งเป็นการเดินทางที่สะดวก รวดเร็ว และสามารถมองเห็นววิรอบเกาะลันเตาและทะเลจีนใต้ได้แบบ 360 องศา ซึ่งกระเช้าจะมีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน คือแบบ สแตนด์ดาด เคบิ้น และ คริสตัล เคบื้น
ซึ่งพื้นจะเป็นกระจกโปร่งใส ไม่เหมาะแก่ผู้ที่กลัวความสูง ด้วยระยะทางกว่า 5.7 กม. ใช้เวลาประมาณ 25นาที สู่หมู่บ้านนองปิงบนยอดเขา บางช่วงที่มีลมแรง หมอกหนา อาจจะทำให้กระเช้าสั่นและเอียงไปมา สร้างความตื่นเต้นแก่นักท่องเที่ยวที่นั่งอยู่ภายในอีกด้วย อีกหนึ่งไฮไลท์ของสถานที่ท่องเที่ยวในฮ่องกง ยอดนิยมเป็นอย่างมาก ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกลัวความสูงไม่แนะนำให้ขึ้นโดยวิธีนี้
หมู่บ้านนองปิง (Nong Ping Village)
เป็นหมู่บ้านที่จำลองชีวิตความเป็นอยู่ของชาวจีน ภายในมีการจัดแสดงวัฒนธรรมต่างๆ สองข้างทางล้อมรอบไปด้วย ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ร้านน้ำชา หอพุทธประวัติและมังกี้ส์เทลเธีนร์เตอร์ โรงภาพยนตร์ขนาดย่อมที่ฉายเรื่องราวของลิงสามตัวกับเทพเจ้าให้ชม
บรรยากาศด้านบนเย็นสบายล้อมรอบด้วยทิวเขา นักท่องเที่ยวที่มาสามรถมาเดินเยี่ยมชมบรรยากาศภายในพร้อมทั้งถ่ายรูปสวยๆได้หลากหลายมุมเพื่อเก็บไปเป็นความประทับใจ ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะเยอะเกือบทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ อีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่อยากจะมาสัมผัสกับบรรยากาศของหมู่บ้านนองปิงแห่งนี้นั้นเอง
วัดโปลิน (Po Lin Monastery)
อยูตรงข้ามองค์พระใหญ่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1920 เดิมเป็นวัดขนาดเล็กมีพระภิกษุสงฆ์เพียง 3 องค์ ต่อมาในปี ค.ศง 1924 ได้เปลี่ยนเป็นศาสนสถานโปลิน พร้อมทั้งมีการสร้างอารามและโบสถ์เพิ่มขึ้น จึงทำให้มีภิกษุเดินทางมาจำวัดกันมากขึ้น หากใครได้มีโอกาสมาวัดนี้แล้วต้องห้ามพลาดการไปนมัสการพระโพธิสัตว์กวนอิม,พระมัญชูศรีโพธิสัตว์ และพระสมันตภัทรโพธิสัตว์
นักท่องเที่ยวทั่วไปนิยมมากราบสักการะบูชาเทพเจ้าแห่งนี้ รวมถึงการไหว้พระขอพรเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตและหน้าที่การงานต่างๆ รวมถึงการไปกินอาหารเจที่โรงเจที่มีการปรุงแต่งอย่างดี เป็นอาหารเจรสเริสที่ถูกอกถูกใจของผู้ที่ชื่นชอบอาหารเจและมาทำบุญที่วัดแห่งนี้อีกด้วย
สักการะพระใหญ่ (Tian Tan Big Buddha Statue)
เป็นพระพุธทรูปขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นในปีค.ศ.1990 แล้วเสร็จในปี ค.ศ.1993 มีความสูง 34 เมตร สร้างจากทองสัมฤทธิ์ 202 แผ่น หนัก 250 ตัน การขึ้นไปสักการะนั้นต้องผ่านบันได 268 ขั้น ด้านบนสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้โดยรอบ 360 องศาเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีประติมากรรมเหล่านางฟ้าที่กำลังถวายเครื่องบูชาอยู่เบื้องหน้าพระพักตร์ อีกทั้งยังได้นมัสการพระบรมสารีริกธาตุและพระพุธทรูปหยกขาวจากศรีลังกา ที่ตั้งอยู่ในห้องใต้ฐานพระ นับว่าเป็นความศิริมงคงชีวิตของผู้ที่ได้มาสักการะ ณสถานที่แห่งนี้จริงๆ ยิ่งช่วงเทศกาลสำคัญๆ ยิ่งมีผู้คนนิยมมากราบไหว้บูชาทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติ ถือวได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในฮ่องกง
วิสดอม แพธ (Wisdom Path)
สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2002 โดยศาสตราจารย์ เจาชุงอิ ปลายทางนั้นเป็นที่ตั้งของเสาไม้ 38 ต้น เรียงกันเป็นเลข 8 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความเงียบสงบ หนึ่งในเส้นทางที่จะพาเราเข้าสู่หัวใจพระสูตร ทั้งนี้บนแผ่นไม้แต่ละแผ่นจะจารึกปรัชญา”ปารมิตาหฤทัยสูตร” แบบย่อ 260 คำเอาไว้
นอกจากนี้ทางเดินนี้ยังผ่านไร่ชาอีกด้วย หากใครเหนื่อยจากการเดินเที่ยวก็สามารถแวะไปชิมชาบริเวณร้านข้างทางได้อีกด้วย เพื่อเป็นความผ่อนคลายจากความเมื่อยล้าต่าง หากนักท่องเที่ยวท่านใดมีโอกาสได้ขึ้นมาสักการะพระใหญ่แล้วก็อย่างลืมลองไปแวะชมความสวยงามของวิสดอมแพทแห่งนี้ รับรองท่านจะประทับใจในความสวยงามของสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างมาก
ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ( Hong Kong Disney Land)
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็อยากลองมาสัมผัสกับโลกการ์ตูนดิสนีย์ในจินตนาการ เพราะภายในเต็มไปด้วยตัวการ์ตูนชื่อดังมากมาย อย่างที่เรารู้จักกันดีคือ มิกกี้และมินนี่เม้าส์ อีกทั้งเครื่องเล่นที่สนุกสุดมัน ร้านอาหารต่างๆ จุดถ่ายรูปสวยๆมากมาย ขบวนพาเรดที่นักรัก และการแสดงโชว์ต่างๆที่อลังการอีกมากมาย
โดยที่นี้จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 7 โซนใหญ่ๆดังนี้ เมนสตรีท ยูเอสเอ เป็นโซนจำหน่ายของที่ระลึกมากมาย,แอดเวนเจอร์แลนด์ โซนการผจญภัยตื่นเต้นกับทาร์ซาน,กริซซี่ ก๊อช โซนเครื่องเล่นสุดแสนจะหวาเสียว,มิสทิค พ้อยท์ โซนเครื่องเล่นในดินแดนพิศวงลึกลับ,ทอย สตอรี่แลนด์ ท่านจะได้พบเจอเหล่าบันดาตัวการ์ตูนจากทอย สตอรี่,แฟนตาซี แลนด์ โซนในจินตนาการของน้องๆหนู และยังมีปราสาทที่เป็นสัญลักษณ์ของดิสนีย์อีกด้วย,ทูมอร์โรว แลนด์ โซนเครื่องเล่นแห่งโลกอนาคต ที่สุดแสนจะหวาดเสียว สำหรับใครที่อยากชมขบวนพาเรด สามารถดูจากในแผนที่ข้อมูล”พาร์ค แม๊พ”ว่าขวบพาเรดจะเดินผ่านตรงไหนบ้าง
ส่วนช่วงค่ำจะมีการแสดงพลุ “ดิสนีย์ อิน เดอะ สตาร์ ไฟเออะเวิร์ค” คู่กับปราสทา เวลาราวๆ 20.00-21.00 น. ใช้เวลาแสดงประมาณ 15 นาที สามรถไปนั่งชมได้บริเวณหน้าปราสาท หากใครได้แวะมาเที่ยวยังฮ่องกงดิสนีย์แลนด์แล้ว ก็อย่าลืมแวะไปชมให้ครบทุกโซน รับรองจะได้ความสนุกสนานและประทับใจกลับบ้านแน่นอน
โนอาร์ อาร์ค ( Noah’Ark)
สถานที่ท่องเที่ยวจำลอง”เรือโนห์อาร์”ลำใหญ่ยักษ์ ที่มีความโดดเด่นและดึงดูดใจจากนักท่องเที่ยว โดบภายในแบ่งออกเป็น 8 โซนใหญ่ๆด้วยกันนั้นก็คือ อาร์ค การ์เด้น จัดแสดงเกี่ยวกับสัตว์,อาร์ค เอ็กซ์โป แสดงการอยู่อาศัยของสัตว์ตัวเป็นๆ , เทรเชอร์ เฮ้าส์ บ้านสมบัติ 15 ห้อง,แอดเวนเจอร์ แลนด์ ให้เด็กๆได้สนุกสนาไปกับเครื่องเล่น 20 ชนิด,อาร์ค ไลฟ์ เอ็ดดูเคชั่น เฮ้าส์ สถานที่ให้ความรู้แห่งแรกในฮ่องกง, เนเจอร์ การ์เด้น พื้นที่สีเขียวที่สอดแทรกงานศิลปะไว้ได้อย่างลงตัว,สเปเชี่ยล เอ็กซ์ฮิบิชั่น ให้คุณได้เข้าไปหาคำตอบในกรุสมบัติโบราณ มีด้วยกันถึง 6 โซน,โซล่า ทาวเวอร์ นิทรรศการ 3มิติที่เกี่ยวข้องกับดาราศาสตร์ พระอาทิตย์และระบบสุริยะ
วัดเชอคุงหมิว (Che Kung Temple)
สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อ 300 ปีก่อน สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เทพ เชอคุง แม่ทัพแห่งราชวงศ์ซ่ง ผู้ที่มีชื่อเสียงทางด้านการรบ ผดุงความยุติธรรม และขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดี โรคภัยทั้งหลายออกไป
ต่อมาราวปีค.ศ. 1993 ได้สร้างวัดแห่งใหม่ขึ้นมาทดแทนของเดิม และนำรูปปั้นท่านนายพลที่มีความสูงถึง 10 เมตร เข้าไปตั้งไว้ในอารามด้านใน พร้อมด้วยรูปปั้น 8 เซียนแห่งลัทธิเต๋า ซึ่งอยู่บริเวณทางเดินด้านนอก ซ้าย-ขวา ในทุกๆวันที่ 2 ของเดือนแรกตามปฎิทินจีน
ชาวฮ่องกงจะเดินทางมาที่วัดแห่งนี้เพื่อถวายกังหันลมเพราะเชื่อกันว่า “กังหันลมนี้จะช่วยพัดพาสิ่งชั่วร้ายและโรคภัยไข้เจ็บต่างๆออกไปจากตัว และนำพามาแต่ความโชคดีมีสุข”
วัดหว่องไท่ซิน (Wong Tai Sin Temple)
ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1921 เพื่ออุทิศให้กับ ว่อง ไท่ ซิน เด็กหนุ่มที่ศึกษาลัทธิเต๋า จนกลายเป็นเทพเจ้า หว่องไท่ซิน สถาปัตยกรรมของวัดนั้นดูคล้ายกับวัดจีนในสมัยโบราณ มีเสาสีแดงขนาดใหญ่กับหลังคาสีทองอร่าม ใต้หลังคาตกแต่งด้วยการเขียนลายไม้สีฟ้าแบบจีนและตัวอักษรสีเหลืองทอง
ส่วนบริเวณรอบๆจะมีอารามเจ้าแม่กวนอิม โขนหินรูปสิงโต สวนน้ำตก และสวนที่จัดเลียนแบบสวนในปักกิ่ง อีกทั้งวัดนี้ถือเป็นวัดลัทธิเต๋าที่มีคนมากราบไหว้บูชา เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีความแม่นในการเสี่ยงเซียมซีนั้นเอง โดยเฉพาะเป็นที่นิยมของชาวไทยที่ไปเที่ยวฮ่องกงแล้วก็ไม่ควรพลาดไปสักการะ เพื่อความเป็นศิริมงคลในชีวิต
สำนักชี (Chi Lin Nunnery)
สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1930 แล้วเสร็จในปี ค.ศ.2000 ใช้เวลาในการก่อสร้างกว่า 70 ปี สำนักชีนางในพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกแห่งนี้ โดยออกแบบตามสถาปัตยกรรมในยุคราชวงศ์ถงของจีน
ใช่เทคนิคการก่อสร้างแบบยึดไม้เข้าหากันและไม่ใช้ตะปูในการยึดสักตัวเดียว มีตัวอารามมากมายหลายหลัง ซึ่งแต่ละหลังจะมีองค์พระโพธิสัตว์ให้ผู้คนที่มาได้กราบไหว้บูชา ไม่ว่าจะเป็น “พระศรีอาริยเมตไตร หรือ พระ ศรีอาริย์” ที่เชื่อกันว่าเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์สุดท้ายในภัทรกัป จะอยู่ที่ศาลาชั้นนอก
อีกทั้งยังมี พระไภษัชยคุรุ,เจ้าแม่กวนอิม และ พระศากยมุนี ด้านในเป็นสถานที่ที่เงียบสงบ ให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายได้เยี่ยมชมความสวยงามและกราบไหว้บูชาเพื่อเสริมความเป็นมงคลชีวิตให้ตัวเอง
สวนนานเหลียน (Nan Lian Garden)
เป็นสวนแบบจีนผสมผสานกับสวนญี่ปุ่นได้อย่างลงตัวตามแบบราชวงศ์ถัง เป็นสวนอันร่มรื่น สงบ ตกแต่งด้วยแมกไม้นานาพันธุ์สไตล์จีน มีทั้งสวนบอนไซ บ่อปลาคราฟ สวนหินน้ำตกไฮไลท์สำคัญของสวนนานเหลียนนั้นก็คือ ศาลาทอง ตั้งอยู่ใจกลางสวนคูกับสะพานสีแดง เป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายรูปสุดอิต ที่สวนงาม ของนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ ร้านน้ำชา ร้านขายของที่ระลึก นักท่องเที่ยวที่มาสสมารถเดินชมทิวทัศน์ความสวยงามบริเวณภายในได้อย่างสงบและนั่งในที่ๆเจ้าหน้าที่จัดไว้ให้สำหรับนั่งเท่านั้น หรือจะเดนเล่นถ่ายภาพกับสวนสวยๆได้อีกเช่นกัน และห้ามนำอาหารเข้าไปรับประทานภายในบริเวณสวน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ค่อนข้างที่จะเคร่งครัด
เกาลูนวอลด์ซิตี้พาร์ค (Kowloon Walled City Park)
ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 100 ปี ที่แล้ว สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งป้อมปราการของจีน เพื่อป้องกันการรุกรานจากอังกฤษ แต่หลังจากที่สงครามสิ้นสุดลง ป้อมปราการแห่งนี้ก็ถูกปล่อยทิ้งร้าง ก่อนจะมีการปรับปรุงในปี ค.ศ.1987 และเปิดให้ประชาชนได้ใช้งานอีกครั้งในปี ค.ศ.1995
ปัจจุบันเกาลูนวอลด์ ซิตี้พาร์ค เป็นสวนสาธารณะที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในฮ่องกง ภายในออกแบบเป็นสวนสไตล์จีน ซึ่งมีสวนบอนไซขนาดใหญ่ ศาลาริมน้ำ สระบัว รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ต่างๆ โดยเฉพาะป้อมกำแพงที่ทางจีนสร้างขึ้นเพื่อใช้ป้องกันการรุกรานพื้นที่ฝั่งเกาลูนจากอังกฤษ หากนักท่องเที่ยวท่านใดมีเวลาเหลือ ก็ลองแวะเข้าไปชมที่สวนแห่งนี้ได้
สามารถมาเยี่ยมชมความสวยงามของสวนแห่งนี้ในวันที่สบายๆ พร้อมเดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศความสวยงามบริเวณรอบๆสวนแห่งนี้ รับรองว่าหากนักท่องเที่ยวท่านใดที่มาคงต้องประทับใจกับความงดงามและบรรยากาศที่สงบ ร่มรื่นของสถานที่แห่งนี้แน่นอน สำหรับนักท่องเที่ยวท่านใดที่มีความชื่นชอบในสวนบอนไซแล้วละก็เป็นต้องหาโอกาศมาเยี่ยมชมในสวนแห่งนี้สักครั้ง
เพราะบริเวณภายในจะมีสวนบอนไซขนาดใหญ่อยู่หลากหลายให่ท่านได้ชม และตื่นตากับพันธุ์ไม้นานาชนิด ที่ถูกจัดเรียง และตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม นักท่องเที่ยวท่านใดที่ชื่นชอบการตกแต่งสวนหรือพันธุ์ไม้ต่างๆ ก็สามารถเข้ามาชมเพื่อจะได้ไอเดียกลับไปจัดสวนที่บ้านของตัวเองก็ได้ จะมาเดินเล่นกันแบบครอบครัวหรือมากันสองคน ก็ได้อีกความรู้สึกหนึ่ง เดินเล่นแบบชิวๆเพลินๆ ความร่มรื่นและสวยงามของที่นี้ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายที่ได้มาเยือนเกิดความผ่อนคลายและมีจิตใจสงบเมื่อได้เข้ามาในบริเวณแห่งนี้
แนะนำแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในฮ่องกง สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
ศูนย์การค้าไอเอฟซี (IFC Mall)
แหล่งช้อปปิ้งชั้นนำที่รวใเอาสถานบันเทิง ร้านอาหาร ภัตตาคาร และสินค้าจากแบรนด์ชื่อดังต่างๆ อาทิเช่น Kenzo,Piana,Loro,Roberto,Cavalla, ฯลฯ มารวมตัวกันอยู่ที่นี้ และที่สำคัญศูนย์การค้า ไอเอฟซี มอลล์ยังเป็นที่ตั้งของห้าง แลนด์ครอว์เฟิร์ด ที่มีเสื้อผ้าแฟชั่นต่างๆมากมาย ให้เลือกซื้อกันได้ตามความชอบ
ศูนย์การค้า มิราม่า (Miramar Shopping Center)
อีกหนึ่งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนถนน นาธาน ที่ภายในมีร้านค้าให้นักช้อปทั้งหลายได้เดินเลือกซื้อสินค้ากันมากกว่า 100 ร้าน โดยเฉพาะผลงานของชาวดีไซน์เนอร์ชาวฮ่องกง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารชื่อดังรสชาติอร่อยเาอไว้บริการฝากท้องเวลาหิวอีกด้วย
ศูนย์การค้า พาร์คเลน (Park Lane Shopper’Boulevard)
ร้านช้อปปิ้งมอลล์ที่มีขนาด 50 ร้านค้า ที่ตั้งอยู่บนถนนจิมซาจุ่ยจะเน้นขายสินค้าแฟชั่นต่างๆ ทั้งแบรนด์ในและแบรนด์นอกประเทศ อีกทั้งราคาสินค้าค่อนข้างสูงพอสมควรถึงแม้จะลดราคาแล้วก็ตาม หากใครที่ชื่นชอบสินค้าแฟชั่นและมีงบเหลือลองแวะไปเดินชมดูได้
ศูนย์การค้า ซิทตี้เกทเอ้าท์เล็ท (City Gate Outlets)
หนึ่งในแหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง ยอดนิยมในหมู่นักช้อปที่มาเที่ยวฮ่องกง ที่ใครได้มาแล้วจะเลือกซื้อสินค้ามากมายจากที่นี้เนื่องจากบางร้านลดถึง 30-70 % ตลอดทั้งปีสินค้าบางยี่ห้อก็อาจจะถูกกว่าห้างร้านที่อื่นๆ ภายในมีร้านแบรนด์ดังกว่า 80 ร้านเช่น Esprit,Mango,Puma,Nike,Adidasฯ นอกจากนี้บริเวณชั้น 2 ยังมีศูนย์อาหารนานาชาติไว้บริการอีกด้วย
ห้างเดอะวัน (The One)
หากคุณกำลังมองหาสินค้าสุดยอดแฟชั่นแนวๆแล้วละก็ ห้างเดอะวัน ถือว่าเหมาะเป็นอย่างมาก เพราะได้รวบรวมแบรนด์แฟชั่นต่างๆเอาไว้มากมาย เช่น Anna sui , Bla Bla bra ฯ อีกทั้งยังมีร้านจำหน่ายสินค้าและของที่ระลึกจากแมวเหมียวฮัลโหลคิตตี้สั่งตรงจากญี่ปุ่นอย่างร้าน Vivitix เอาไว้ด้วย
ห้างเคสิบเอ็ด (K-11)
ห้างชื่ดังใจกลางย่านจิมซาจุ่ย ที่ได้นำเอาศิละมาผสมผสานให้เข้ากับบรรดาร้านค้าแบรนด์ดังต่างๆภายใน ภายใต้คอนเซปต์ที่มีชื่อว่า เดอะเฟิร์ทอาร์ทมอลล์ ทำให้พื้นที่ตลอด 5 ชั้น เต็มไปด้วยงานศิลปะหลากหลายแขนง ส่วนชั้นที่ 6 นั้น เป็นที่ตั้งของโรงแรม Hyatt Regency คนที่มาที่นี้จะชอบแวะร้าน โอนิซึกะ ตามรีวิว เค้าว่ามีราคาถูกกว่าที่อื่น
ห้างไอสแควร์ (I-Square)
จะเน้นไปที่การสร้างความแปลกใหม่ของการมาช้อปปิ้งดังนั้นเราจะสังเกตุได้ตั้งแต่แรกเข้าห้างเลยว่าภายในห้างแห่งนี้จะได้เห็นแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศมากมาย นักช้อปทั้งหลายไม่ควรพลาด เช่น Wenger, Mango,HMV ฯลฯ อีกทั้งยังมีร้านอาหารนานาชาติให้เหล่าบรรดานักชิมได้ลิ้มลองอาหารอร่อยๆมากมาย
ร้านซาซ่า (SaSa)
ร้านขายเครื่องสำอางผู้หญิงราคาเบาๆซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วไปกระจายอยู่ในฮ่องกงสินค้าที่คนไทยนิยมซื้อมากที่สุดคือน้ำหอม แบรนด์ดังมากมาย มีทั้งขนาดเล็กแบบพกพาหรือจะซื้อแบบขวดใหญ่ก็มี ซึ่งมีราคาไม่แพง หากโชคดีไปในช่วงที่มีการลดราคาก็อาจจะได้ราคาถูกลงเกือบครึ่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ บางยี่ห้อจะมีราคาถูกกว่าที่เมืองไทย ซึ่งสามารถช้อปได้อย่างจุใจกันทีเดียว
ร้านคัลเลอร์มิกซ์ (Color Mix)
สินค้าต่างๆอาจ จะไม่เยอะเท่าร้านซาซ่าและบองชูว์เป็นร้านขายเครื่องสำอาง น้ำหอมทั้งของผู้หญิงและผู้ชาย แต่ก็มีบางยี่ห้อที่ร้านซาซ่าและบองชูว์ไม่มี ส่วนราคานั้นก็ใกล้เคียงกัน อาจจะเห็นร้านนี้บริเวณย่านสำคัญต่างๆในฮ่องกง ยังไงมีโอกาสลองเข้าไปเดินเลือกชมสินค้าภายในร้านได้รับรองไม่ผิดหวัง อีกหนึ่งร้านช้อปปิ้งในฮ่องกง
ร้านบองชูว์ (Bonjour)
ร้านน้องใหม่ที่มาแรงยอดฮิตไม่แพ้กัน มีเกือบแทบทุกสถานที่สำคัญๆในฮ่องกง สินค้าส่วนมากจะเป็นเครื่องสำอาง น้ำหอมแบรนด์ดังทั้งของผู้หญิงและผู้ชาย สินค้าส่วนใหญ่จะคล้ายๆร้านซาซ่า แต่จะมีบางยี่ห้อที่ร้านบองชูว์นำมาขายแตกต่างกัน ส่วนราคาต้องลองเปรียบเที่ยบกันก่อนซื้อว่าแตกต่างกันมากไหมเพราะแต่ละช่วงมีการจัดลดราคาไม่เหมือนกัน
ร้านเอสเตอร์ (Aster)
ถึงแม้ร้านเอสเตอร์จะไม่มีสาขากระจายอยู่มากมายนักในฮ่องกงเหมือนร้านดังเจ้าอื่นๆ แต่ร้านนี้ก็มีสินค้ามากมายให้นักช้อปทั้งหลายได้มาเลือกซื้อเลือกชมกันมากกว่า 500 แบรนด์ ซึ่งปัจจุบันร้านเอสเตอร์มีเพียง 8 สาขาเท่านั้น เป็นอีกร้านที่นิยมของคนฮ่องกงอีกด้วย
ร้านอิทูดี้ เฮ้าส์ (Etude House)
แบรนด์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมความงามชื่อดังจากประเทศเกาหลี เป็นที่นิยมของสาวๆในเอเชีย คนไทยส่วนมากที่มาเที่ยวในฮ่องกงจะไม่พลาดไปเดินเลือกซื้อเลือกชมสินค้าของ แบรนด์นี้ โดยที่ฮ่องกงนั้นเปิดสาขาแรกในย่านมงก๊กช่วงปลายปี 2012 ปัจจุบันมีด้วยกัน 4 สาขา ซึ่งที่นี้ราคาจะไม่ถูกเท่าที่เกาหลี แต่ถ้ามาในช่วงที่มีการจัดโปรโมชั่นของร้าน ราคาก็น่าสนอยู่ไม่น้อย
ร้านก๊อดเวล (Godwell Dispensary & Cosmatic Limited)
ร้านบองชูว์ที่ว่าถูกแล้ว หรือจะเป็นร้านซาซ่าที่ว่าไม่แพงนั้น ถ้าหากนักช้อปทั้งหลายได้มาเจอร้านก๊อดเวลแล้วละก็รับรองจะต้องร้องโอ๊ย… เพราะน้ำหอมแบรนด์ดังเครื่องสำอางยี่ห้อต่างๆ ส่วนมากของทางร้านจะมีราคาถูกมากๆ จนเป็นที่ติดใจของนักช้อปทั้งหลายที่มา อีกทั้งที่นี้ยังเปิดขายเพียงแค่สาขาเดียวเท่านั้น
ร้านฟอร์เทรส (Fortess)
ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า นำเข้าจากทั่วโลก ร้านนี้เป็นที่นิยมของชาวฮ่องกงเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีความน่าเชื่อถือและมีการรับประกันคุณภาพหลังการซื้อไปแล้ว 10 วัน หากพบสินค้ามีปัญหา สามารถนำมาเปลี่ยนกับสาขาใดก็ได้ในฮ่องกง ส่วนราคาก็ไม่ได้ถูกไปซะทั้งหมด ควรเปรียบเทียบกับราคาที่ไทยด้วย
เทมเพิลสตรีทไนท์มาร์เก็ท (Temple Street Night Market)
ภายในแบ่งออกเป็น 2 โซนได้แก่ โซนเทมเพิลสตรีท ที่จัเต็มไปด้วยหมอดู ทั้งไพ่ยิปซี,นกแก้ว ฯ เค้าว่าแม่นมาก และ โซนเทมเพิลสตรีทไนท์มาร์เก็ท เป็นพื้นที่ขายสินค้าประเภท เสื้อผ้า นาฬิกา กระเป๋าเดินทาง สินค้าแฮนด์เมด ภาพเขียน อีกทั้งยังมีร้านอาหารริมทางมากมายซึ่งมีราคาไม่แพง
มงก๊กมาร์เก็ท (Mong Kok Market)
หากนักช้อป ท่านใดอยากลองสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นกับตลาดแห่งนี้ก็ลองแวะมาได้ ภายในมีร้านแผงลอยจำหน่าย เนื้อสัตว์ ผักสด ผลไม้สด อาหารสำเร็จรูปฯ นอกจากนี้ยังมีเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้มากมายที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้เลือกซื้อ อีกหนึ่งตลาดยอดนิยมของคนฮ่องกง อีกทั้งมีราคาไม่แพงมาก
เลดี้ส์มาร์เก็ท (Ladies Market)
แน่นอนว่าสินค้าข้าวของเครื่องใช้ส่วนใหญ่จะเป็นของผู้หญิงเป็นหลัก ทั้งเสื้อผ้า ยีนส์ รองเท้า กระเป๋า ตุ๊กตา ของเล่นเด็ก ชุดชั้นใน ของใช้ ของแต่งบ้านกระจุกกระจิก และของที่ระลึกฯ ส่วนสินค้าที่ขึ้นชื่อของที่นี้นั้น คงจะหนีไม่พ้นสินค้าลอกเลียนแบบเพราะมีให้เลือกแบบสารพัดแบรนด์ดังจากทั่วทุกมุมโลกเลย
ชาร์เตอร์เฮ้าส์ (Chater House)
แหล่งรวมสินค้าแบรนด์ดังอย่าง Giorgio Armani ที่ได้รวบรวมแบรนด์สินค้าทั้งหมดที่อยู่ในเครือเอาไว้มากมาย ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้หรือผู้ที่ชื่นชอบของแบรนด์นี้ รับรองว่ามาที่นี้ที่เดียวจะได้ครบจริงๆ นักช้อปทั้งหลายหากยังพอมีงบเหลือก็ลองแวะเข้าไปชมสินค้าภายในร้านได้
เดอะแลนด์มาร์ค (The Land Mark)
อีกหนึ่งแหล่งช้อปปิ้งแบรนด์ดังที่มีชื่อเสียงในฮ่องกง เพราะที่นี้ได้รวบรวมเอาแบรนด์ดังชั้นนำของโลกต่างๆเอาไว้มากมาย ทั้งของผู้หญิงและผู้ชาย อาทิเช่น Dior,Gucci,Burberry,Louis Vuitton, Prada,Polo, Calvin Klein ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีร้านเครื่องประดับ สินค้าแฟชั่น ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่สมกับชื่อจริงๆ
คอสเวย์เบย์ ถนนสายช้อปปิ้ง (Causeway Bay)
อีกหนึ่งย่านการค้าและแหล่งช้อปปิ้งสำคัญๆของฮ่องกง นักช้อปทั้งหลายจากทั่วสารทิศจะมารวมตัวกันที่นี้เพื่อเลือกซื้อสินค้า บริเวณย่านนี้จะมีห้างร้านต่างๆมากมาย จำหน่ายเครื่องสำอาง ข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ร้านอาหารขึ้นชื่อ ฯ อีกทั้งมีราคาไม่แพงมากนัก ยังไงก็อย่าลืมแวะเวียนไปชมสินค้าของที่นี้
แนะนำร้านอาหารยอดนิยมแหล่งกินดื่มยอดนิยมในฮ่องกง สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
ร้านซัมฮุยยาท (Sam Hui Yat)
ร้านติ่มซำในห้องแถวเล็กๆที่ดูธรรมดาสำหรับนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปผ่านมา แต่เป็นที่รู้จักกันดีของผู้คนในย่านนี้ในเกาะฮ่องกงเพราะเปิดขายมานานแล้ว โดยคาดว่าน่าจะเปิดมาในช่วงปี ค.ศ. 1960 โดยยังคงรสชาติของติ่มซำแบบดั่งเดิมอีกทั้งยังมีราคาถูก นักท่องเที่ยวท่านใดที่ชื่นชอบการรับประทานติ่มซำก็ลองแวะเข้าไปลิ้มลองกันดู ด้วยรสชาติความอร่อยที่ถูกสืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นจึงทำให้ร้านนี้ยังคงความอร่อยในแบบดังเดิมเอาไว้
ร้านฮอยออนคาเฟ่ (Hoi On Cafe’)
ร้านนี้เปิดมานานราวครึ่งศตวรรษ มีเมนูอาหารสไตล์ฮ่องกงแท้ๆอย่าง ทาร์ตไข่ ขนมปังสับปะรด ขนมปังหน้าหมู บะหมี่หน้าหมูแดง และอีกมากมายหลากหลายเมนู ถึงภายนอกร้านจะดูธรรมดาแต่รสชาติอาหารของที่นี้ไม่ธรรมดาแน่นอน หากนักท่องเที่ยวท่านใดที่อยากลองชิมเมนูสไตล์ฮ่องกงแท้ๆ ก็อย่าลืมแวะไปลิ้มลองได้ ทั้งบบรยากาศและอาหารรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนทั้งอาหารคาวและขนมหวานอีกทั้งราคาไม่แพงมากด้วย
ร้านซันหยวนฮิงกี่ (Sun Yuen Hing Kee)
เปิดขายมาตั้งแต่ปี 1970 ถือเป็นหนึ่งในร้านขายข้าวหน้าเป็ดย่างไก่ย่างและข้าวหมูกรอบที่สุดแสนจะอร่อยของย่านนี้ ที่นี่จะย่างให้หนังกรอบแต่เนื้อด้านในยังคงความนุ่มและมีรสหวานธรรมชาติ เนื่องจากมีสูตรเด็ดของตัวเองที่ได้สืยทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น นักชิมทั้งหลายจึงแวะเวียนมารับประทานกันเป็นประจำ
ร้านชานคันกี่ ( Chan Kan Kee Chiu Chow Restaurant)
ร้านโจ๊กที่ได้นำเอาวัตถุดิบสุดแสนอร่อยและมีคุณภาพอย่างหอยนางรมที่นำมาจากมรฑลกวางตุ้งของจีน มาผสมผสานกับโจ๊กของที่นี้อย่างเช่นเมนู โจ๊กหอยนางรม เหมากับผู้ที่ชื่นชอบเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีเมนูห่านหมักเครื่องเทศสูตรเด็ดของทางร้าน ที่เป็นเมนูแนะนำอีกด้วย นักชิมที่ชื่นชอบการรับประทานห่านย่างต้องถูกใจกับรสชาติความอร่อยจากร้านแห่งนี้แน่ๆ
ร้านวิงหว่า (Wing Wah Noodle Shop)
ร้านที่นี้จะขึ้นชื่อในเรื่อง ข้าวอบหม้อดินหน้าเนื้อและไข่ ซึ่งเป็นเมนูเด็ดของทางร้านและเป็นเมนูแนะนำ หากใครได้มาเป็นต้องสั่งเมนูนี้ ส่วนใครที่รับประทานเนื้อไม่ได้ทางร้านยังมีเมนู ข้าวอบหม้อดินกระดูกหมู รับรองอร่อยไม่แพ้กันเลยทีเดียว
ด้วยเทคนิคการอบหม้อดินชั้นครูที่ทางร้านบรรจงคัดสรรการทำเป็นอย่างดี จึงทำให้ร้านนี้ได้ชื่อว่ามีข้าวอบหม้อดินที่อร่อยที่สุดในฮ่องกง เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากของผู้คนชาวฮ่องกงที่ติดอกติดใจในรสชาติความอร่อยของข้าวอบหม้อดินของทางร้านแห่งนี้ อีกหนึ่งร้านแนะนำที่มีข้าวอบหม้อดินที่อร่อยไม่เหมือนร้านไหนๆที่นักท่องเที่ยวเคยไปชิมมา นักท่องเที่ยวท่านใดที่อยากลองรับประทานข้าวอบหม้อดินสไตล์ฮ่องกงอย่าลืมแวะไปลิ้มลองกันได้
ร้านซูชิวัน (Shu Shi one)
ร้านซูชิแบบสายพานใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ ที่กำลังเป็นที่นิยมของชาวฮ่องกงและบรรดานักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นทั้งหลาย เนื่องจากมีราคาไม่แพงและมีให้เลือกหลายหน้า หากมาในช่วงเวลาทานข้าวก็จะต้องรอคิวกันนานเลยที่เดียว
นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นส่วนลด 50% หลัง 22.00-00.00 น. แต่ต้องกินขั้นต่ำ 80 HK$ ส่วนมากนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีโอกาศไปเยือนฮ่องกง จะชอบไปนั่งรับประทานซูชิที่ร้านซูชิวันแห่งนี้ เป็นที่รู้จักกันดีของผู้คนชาวฮ่องกง
ร้านเชี่ยวฟะ (Chiu Fat Porridge Noodle Restaurant)
อีกหนึ่งร้านดังที่ขายทั้ง บะหมี่ เอ็น เนื้อ ลูกชิ้นปลา เกี๊ยว ไก่ต้ม โจ๊ก และอีกมากมาย โดยร้านนี้ยังได้รับการการันตีความอร่อย จาก ม.ล.ว.ถนัดศรี และ ม.ล.ภาสันต์ ทางร้านมีเมนูมากมายที่ถูกปากนักท่องเที่ยวชาวไทยและราคาที่ไม่แพง รสชาติอร่อย
เนื่องจากทางร้านยังมีเมนูภาษาไทยให้เลือกสั่งอีกด้วย ทำให้ง่ายต่อการสั่งอาหารของนักท่องเที่ยวชาวไทย จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีโอกาศได้ไปเที่ยวที่ฮ่องกง แวะเวียนกันไปลองโจ๊กรสเด็ดของร้านนี้อยู่เป็นประจำ
ร้านซีวิว คอนจี (Sea View Congee)
ร้านโจ๊กชื่อดังในย่านมงก๊ก หาใครกำลังมองหามื้ออาหารที่แสนอร่อยที่สะดวกรวดเร็ว แนะนำให้มาลองที่นี้ มีทั้ง โจ๊ก บะหมี่ น้ำเต้าหู ฯลฯ เมนูแนะนำที่เป็นไฮไลท์เด็ดเลยนั้นก็คือ ปาท่องโก๋ห่อเส้นก๋วยเตี๋ยว ที่ต้องรับประทานคู่กับซอสสีดำ ทำให้เพิ่มรสชาติความอร่อยมากยิ่งขึ้น อีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อของฮ่องกง ที่ทำกันแบบใหม่ๆสดๆ ส่วนเรื่องราคาไม่แพงและรสชาติอาหารอร่อยอีกด้วย
ร้านวันติ่มซัม (One Dim Sum)
ร้านติ่มซำได้รับการันตีความอร่อยจากดาวมิชลิน มีเมนูติ่มซำให้เลือกมากกว่า 45 รายการ อีกทั้งมีราคาไม่แพง ราคาเริ่มต้นที่เข่งละ 13 HK$ เป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้ที่ชื่นชอบติ่มซำทั้งชาวฮ่องกงเองและนักท่องเที่ยวที่มาลิ้มลอง ร้านนี้อร่อยจิงจึงต้องบอกต่อ คนรักติ่มซำยิ่งไม่ควรพลาดที่จะมาลิ้มลองกันด้วย
ร้านซัมเซ็งชันกี่ (Sham Tsens Chan Kee Restaurant)
ร้านห่านย่างที่สุดแสนจะอร่อย เป็นที่รู้จักกันดีของผู้คนย่านมงก๊ก อีกทั้งยังมีราคาที่ย่อมเยา ที่ขายห่านย่างเนื้อนุ่ม หนังบางกรอบ สามารถเลือกสั่งได้ทั้งแบบ โปะข้าว ห่านครึ่งตัว ห่านทั้งตัว นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆให้เลือกลองกันได้อีกมากมาย
ร้านหยวนกี่ ดีสเซิร์ท (Yuen Kee Dessert)
เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 100 ปี เป็นร้านขนมหวานสไตล์ฮ่องกง ซึ่งเมนูที่แนะนำของที่ร้านี้นั้นก็คือ ชาสมุนไพรที่เสิร์ฟพร้อมไข่ต้มและลูกบัว ซุปงาดำ และวอลนัทลูกบัว แนะนำให้สั่งมารับประทานคู่กับขนมสาลี่เนื้อนุ่ม รับรองอร่อยเข้ากันอย่างลงตัว เป็นขนมหวานที่นิยมรับประทานกันอย่างมากของผู้คนชาวฮ่องกง ทานง่าย รสชาติอร่อย
ร้านเซคม่อฟง (Shek Mo Fong)
ร้านขนมหวานเป็น ที่รู้จักกันดีของชาวฮ่องกง แต่นักท่องเที่ยวชาวไทยยังไม่รู้จักกันมากนัก เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านเลยนั้นก็คือ แป้งงาดำสอดไส้มะม่วง,ครีมอัลมอนด์กับงาดำ และน้ำแข็งใสผลไม้ เป็นที่ชื่นชอบของชาวฮ่องกงเป็นอย่างมาก รับรองเรื่องความอร่อย ที่จะต้องอยากกลับไปลองอีกสักครั้ง
ร้านฮันนีมูนดีสเซิร์ท(Honeymoon Dessert)
ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้คนชาวฮ่องกงและนักท่องเที่ยว ที่บอกกันเป็นเสียงเดียวว่า อร่อย ร้านนี้เปิดเมื่อปี 1995 ปัจจุบันมีสาขามากมายอยู่ในฮ่องกงสามรถพบเจอได้ตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆที่มีชื่อเสียงต่างๆในฮ่องกง
เมนูที่ขึ้นชื่อประจำร้านที่ต้องสั่งมาลองเลยนั้นก็คือ แพนเค้กมะม่วง สาคูมะม่วงใส่ไอศกรีม เป็นอีกหนึ่งร้านขนมหวานชื่อดัง ยอดนิยมเป็นที่รู้จักกันดีของชาวฮ่องกงและนักท่องเที่ยวที่มาเยือน นักท่องเที่ยวท่านใดที่ชื่อชอบและโปรดปรานของหวานเป็นพิเศษแล้วละก็ อย่าลืมลองไปแวะชิมขนมและเมนูของหวานอื่นๆของทางร้าน ที่รสชาติอร่อยถูกปากนักชิมแน่นอน
ร้านฮุยโหลวชาน (Hui Lau Shan)
สูตรเด็ดของทางร้านเลยที่นำเอาผลไม้ตามฤดูกาลมาทำเป็นขนมหวานชนิดต่างๆมีรสชาติที่สุดแสนจะอร่อย เช่น พุดดิ้งม่ะม่วง ข้าวเหนียวน้ำมะพร้าว นำผลไม้ปั่นชนิดต่างๆ จนตอนนี้กลายเป็นที่นิยมของชาวฮ่องกงและนักท่องเที่ยวที่ได้มาลิ้มลอง ร้านนี้จะตั้งอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆในฮ่องกง
นักท่องเที่ยวท่านใดเดินผ่านร้านนี้แล้วอย่าลืมลองเข้าไปสั่งน้ำปั่นแสนอร่อยจากร้านนี้ แล้วท่านจะลืมน้ำปั่นร้านอื่นที่เคยลองมา หากท่องท่องเที่ยวท่านใดที่เดินเล่นเหนื่อยๆอยากลองหาอะไรดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่นและมีประโยชน์ หรือจะแวะเข้าไปนั่งรับประทานขนมหวานคู่กับน้ำผลไม้ปั่นแล้วละก็ คงต้องเป็นที่ร้านนี้ห้ามพลาดที่จะมาลิ้มลองรสชาติน้ำผลไม้ปั่นจากฮ่องกง
ร้านฮางฟาโหลว (Hang Fa Lau)
ร้านแนะนำในฮ่องกงที่มีทั้งเมนูคาวหวานอย่างเช่น ข้าวหมูอบมะเขือเทศ นมตุ๋นขิง พุดดิ้งไข่ถั่วแดง พุดดิ้งมะม่วง นอกจากนี้ยังมีเมนูอีกมากมายให้ลองกัน เรียกว่ามาที่นี้ที่เดียวได้ลองชิมทั้งอาหารคาวหวานหลากหลายชนิด ถูกใจคอนักชิมทั้งหลายเลยทีเดียว หากนักท่องเที่ยวท่านใดมีโอกาศผ่านไปร้านนี้อย่าลืมลองสั่งเมนูข้าวหมูอบมะเขือเทศ รับรองอร่อยติดใจแน่นอน
ร้านคุงหวอทง (Kung Wo Tong)
ร้านน้ำสมุนไพรที่เก่าแก่เปิดมาตั้งแต่ปี 1904 ชาวฮ่องกงนิยมดื่มน้ำสมุนไพรอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยให้ร่างกายมีสมดุลที่ดี ขายชาแก้หวัด 24 รส และยังมี เยลลี่สมุนไพรแบบ ร้อน-เย็น รสชาติขมมาก ต้องกินกับน้ำเชื่อมที่ให้มา เชื่อกันว่ามีสรรพคุณแก้ร้อนในได้เป็นอย่างดี นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในฮ่องกงควรลองชิมดูสักครั้ง ถึงรสชาติจะไม่ค่อยถูกปากแต่รับรองว่าสรรพคุณดีมากแน่นอน
ย่านนัตส์ฟอร์ด เทอร์เรซ (Knutsford Terrace)
แหล่งรวมภัตตาคารนานาชาติ ผับ บาร์ ที่มีให้เลือกมากกว่า 40 ร้าน ซึ่งนักชิมนักดื่มทั้งหลายสามารถเลือกนั่งร้านตามแบบสไตล์ของตัวเอง ย่านนี้จะเริ่มมีผู้คนมานั่งตั้งแต่ ห้าโมงเย็นไปแล้ว ไปจนถึงเที่ยงคืน เป็นที่นิยมของผู้คนย่านฝั่งเกาลูน ในการกินดื่มและสังสรรค์กันยามค่ำคืน พร้อมกับบรรยากาศสบายๆและเพลิดเพลิน
ย่านลานไคฟง (Lan kwai Fong)
ย่านสำคัญของนักดื่มนักเที่ยวยามราตรี โดยตลอดเส้นทางจะมีร้านน่านั่งให้เลือกมากกว่า 60 ร้าน ทั้งผับ บาร์ ลานเบียร์ ร้านอาหาร เปิดกันตั้งแต่ช่วงเย็นๆถึงตี 2 สามารถเลือกนั่งได้เลยตามความชอบ ส่วนเรื่องราคาของย่านี้บอกได้เลยมาไม่ธรรมดา ค่อนข้างแพงจากที่อื่นๆ เปรียบเสมือนแหล่งรวมตัวสังสรรค์ของนักดื่มทั้งชาวฮ่องกงเองและชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยวที่มา
ย่านโซโห (So Ho)
ในอดีตเคยเป็นย่านการค้าของเก่าที่เงียบสงบ แต่เมื่อเวลาผ่านไปที่นี้ก็เปลี่ยนแปลงกลายมาเป็นย่านที่เต็มไปด้วย คาเฟ่ ร้านอาหารนานาชาติ มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ร้านที่นี้จะเน้นความหรูหราและดูดี อีกหนึ่งย่านกินดื่มชื่อดังของฝั่งเกาะฮ่องกง เปดกันตั้งแต่ช่วงเย็นๆไปจนถึงตี 2 เหมือนย่านลานไคฟง เอาใจนักดื่มและนักท่องราตรีทั้งหลาย ทั้งความสนุกสนาน มาที่นี้ในช่วงค่ำๆก็จะเริ่มเห็นผู้คนทยอย มากันมากมาย