สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย

แนะนําสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศไทย 4 ภาค แหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย

สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย เมื่อพูดถึงการเดินทางทุกคนมักจะตื่นเต้นเสมอ เพราะจะได้ลาหยุดจจากความเครียดที่มี เช่น การเรียน การทำงาน เพื่อออกเดินทางไปพบเห็นสิ่งใหม่ๆช่วยให้ผ่อนคล้ายหายเหนื่อได้เป็นอย่างมาก คนส่วนใหญ่เมื่อจะต้องเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างถิ่นนั้น คนทั่วไปก็ไม่ค่อยจะรู้จักกับสถานที่นั้นสักเท่าไหร่ วันนี้ทางเรา จะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต 4 ภาค เอาไว้ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางของท่าน เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการ ด้วยข้อมูลที่กระชับ มีใจความสำคัญของแหล่งท่องเที่ยวนั้นเพื่อนให้ง่ายต่อการอ่าน

แนะนําสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมภาคเหนือ

ภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง จ.เชียงรายสถานที่ท่องเที่ยวสัมผัสทะเลหมอกของไทย

ภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง จ.เชียงราย

เป็นยอดเขาที่มีรูปร่างแหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตร โดยเฉพาะตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นตรงระหว่างปลายยอดเขา
จะดูเหมือนเสือคาบแก้วมาก บริเวณของหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว เป็นจุดชมวิวสองฝั่งโขงไทยลาว สามารถชมทะเลหมอกและมีลานกางเต็นท์ไว้คอยให้บริการ บนดอยมีหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า ปัจจุบันประกอบอาชีพเกี่ยวกับการเกษตรปลูกพืชเมืองหนาว เช่น แอปเปิ้ล บ๊วย สาลี่ และท้อ สามารถแวะไปชมและหาซื้อของฝากได้เช่นกัน

ดอยแม่สลอง จ.เชียงราย

เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสันติคิรีอยู่ในอ.แม่ฟ้าหลวง โดยไฮไลท์ดอยแม่สลองคือ การชมไร่ชาและศึกษาวิธีการผลิตชา สามารถแวะชมและถ่ายรูปกับไร่ชา ชิมชารสชาติต่างจากดอยแม่สลอง รวมทั้งซื้อกลับไปฝากเป็นของฝากได้อีกด้วย ในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว ก็จะเห็นดอกนางพญาเสือโคร่ง(ซากุระเมืองไทย)ซึ่งเป็นดอกซากุระพันธุ์ที่เล็กที่สุด มีสีชมพูอมขาวบานสะพรั่งตลอดทางขึ้น-ลงของดอยแม่สลอง เป็นอีกจุดนึงที่เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่ได้แวะมา

ดอยวาวี จ.เชียงราย

ตั้งอยู่ที่ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย โดยยึดอาชีพการปลูกชา กาแฟและผลไม้ท่ามกลางทิวทัศน์อันสวยงามของดอย ดอยวาวีเป็นชุมชนขนาดใหญ่ของชาวจีนฮ่อ เป็นสถานที่ที่เขียวขจีด้วย ไร่ชาที่ลดหลั่นตามลาดเขาซึ่งสวยงามมาก เหมาะที่จะไปเที่ยวช่วงหน้าหนาว นอกจากนั้นยังมีจุดชมทะเลหมอกอยู่บนดอยกาดผีใกล้กับดอยวาวี ห่างออกไป 20 กม.มีเส้นทางที่ค่อนข้างคดเคี้ยวและทุรกันดาร

พระตำหนักดอยตุงและสวนแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี(สมเด็จย่า) มีรูปแบบการสร้างที่ผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนากับชาเลย์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวสามารถ เยี่ยมชมแปลงดอกไม้ภายในบริเวณและยังมีร้านขายของที่ระลึก เสื้อ ผ้าไหม ผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวง ทั้งผัก ผลไม้ ดอกไม้ พันธุ์ไม้ต่างๆให้ท่านได้เลือกซื้อกลับไปฝากเป็นของที่ระลึกอีกด้วย เนื่องจากเป็นสถานที่ราชการ นักท่องเที่ยวที่มาจึงควรแต่งกายให้สุภาพ เรียบร้อย

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

ชื่อว่าดอยหลวง หรือ ดอยอ่างกา เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย (2,599 เมตร) จึงทำให้มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี อีกจุดหมายสำคัญของนักกางเต็นท์ที่มา เพื่อมารอดูพระอาทิตย์ขึ้นและ สัมผัสบรรยากาศทะเลหมอกในยามเช้า นักท่องเที่ยวจะหนาแน่นมากในช่วงปลายปีของทุกๆปีอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีสถานที่น่าสนใจในบริเวณอุทยานฯ อีกเช่น น้ำตกวชิรธาร น้ำตกแม่กลาง น้ำตกแม่ยะ น้ำตกสิริภูมิ ถ้ำบริจินดา โครงการหลวงอินทนนท์ และ เส้นทางศึกษาธรรมชาติหลายจุดไว้ให้ได้เที่ยวชมกันอีกด้วย

ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่

เป็นที่ตั้งสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ภายในสถานีมีงานสาธิตพืชไร่โครงการวิจัยผลไม้ ไม้ดอกเมืองหนาว แปลงทดลองปลูกไม้ผลเมืองหนาว สวนบอนไซ มีการจัดจำหน่ายผลิตผลพืชผักเมืองหนาวที่ปลูกในบริเวณโครงการฯ ให้แก่นักท่องเที่ยวตามฤดูกาล ผลไม้ที่ขึ้นชื่อคือ สตอเบอร์รี่ในช่วงหน้าหนาว และสามารถเยี่ยมชมไร่สตอเบอร์รี่ได้อีกด้วย ในสถานีฯ มีที่พัก และลานกางเต็นท์บริการแก่นักท่องเที่ยว ระว่างทางขึ้น-ลงดอยอ่างขางนั้นจะเห็นดอกนางพญาเสือโคร่งบริเวณสองฝั่งทางให้ได้ชมด้วยเช่นกัน

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จ.แม่ฮ่องสอน

ภูเขาที่สูงที่สุดคือ ดอยช้าง มีสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี มีเทือกเขาและภูเขาสูงครอบคลุมอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นป่าต้นน้ำลำธาร มีลำห้วยน้อยใหญ่มากมาย มีทิวทัศน์ที่สวยงามเหมาะแก่การไปถ่ายรูปเป็นอย่างมาก ฤดูหนาวอากาศเย็นปกคลุมทั่วบริเวณ สามารถไปกางเต็นท์ชมทะเลหมอก สัมผัสอากาศหนาวในช่วงหน้าหนาวอย่างมาก

แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่

ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ นาข้าวขั้นบันไดกว้างไกลสุดสายตาโอบล้อมไปด้วยภูเขาและแม่น้ำ มีหมู่บ้านอยู่ตามที่ราบและกระจัดกระจายอยู่ตามหุบเขาซึ่งนักท่องเที่ยวที่ไปจะได้เห็นวิถีชีวิตและบรรยากาศของชาวชนบทอย่างแท้จิง นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกเช่น สวนป่าแม่แจ่ม วัดกองกาน วัดป่าแดด วัดกองแขก สถานีทดลองเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง และหมู่บ้านทอผ้าซิ่นตีนจก

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จ.แม่ฮ่องสอน

ภูเขาที่สูงที่สุดคือ ดอยช้าง มีสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี มีเทือกเขาและภูเขาสูง ครอบคลุมอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นป่าต้นน้ำลำธาร ลำห้วยน้อยใหญ่มากมาย มีจุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) ฤดูหนาวอากาศเย็นปกคลุมทั่วบริเวณ สามารถเห็นทะเลหมอกในยามเช้า สูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชื่นปอด พร้อมกับวิวสวยๆของห้วยน้ำดังนอกจานี้ยังมีน้ำตกและโปร่ง ให้ได้เที่ยวชมกันอีกด้วย

ปางอุ๋ง (สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย ) จ.แม่ฮ่องสอน

มีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง และมีแนวป่าสนเรียงรายอยู่รอบๆอ่างเก็บน้ำ ในตอนเช้าของฤดูหนาว จะมีไอหมอกพร้อมแสงอาทิตย์อุ่นให้ได้สัมผัสกันเปรียบเสมือนนิวซีแลนด์เมืองไทย ปาอุ๋งเป็นหมู่บ้านโครงการพระราชดำริปางตอง 2 ในพระบรมราชินูปถัมป์ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ แนะนำให้มาช่วงฤดูหนาวเพราะจะได้บรรยาศที่สวยงามมาก

ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

อีกจุดหมายปลายทางของผู้ที่มาท่องเที่ยวทางภาคเหนือของไทย เป็นต้องแวะมาเที่ยวที่ปายเสมอ ปายเป็นเมืองเล็กๆมีภูเขาล้อมรอบ และยังเป็นรอยต่อของชายแดนไทย-พม่าอีกด้วย มีความสวยงามของทิวทัศน์ในบริเวณรอบๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงหน้าหนาว จะมีหมอกจางๆให้ได้เห็น และยังมีความเป็นเอกลักษณ์ของคนในชุมชนอีกด้วย ตกเย็นจะมีถนนคนเดินให้ได้ แวะชิมอาหารพื้นเมือง รวมถึงซื้อของฝาก ของที่ระลึก ส่วนใหญ่จะเป็นงานฝีมือซึ่งสวยงามมากเลยทีเดียว

ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ – ดอยแม่เหาะ จ.แม่ฮ่องสอน

เป็นดอกทานตะวันป่า ขึ้นสะพรั่งไปทั่วหุบเขา ดอกจะมีสีเหลืองและที่นี้มีพื้นที่รอบกว้างประมาณ 1 พันไร่ อยู่ในเขตตำบลแม่เหาะ ยอดดอยแม่อูคอสูงจากระดับน้ำทะเล 1,600 เมตร มีชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงอาศัยอยู่โดยส่วนมาก ดอกบัวตองจะมีให้เห็นในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม จึงมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจพากันมาชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก

มียอดเขาสูง 1,617 เมตร ปกคลุมรอยต่อของ 3 จังหวัดคือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ลักษณะของป่าจะเป็น ป่าดิบเขา ป่าเต็งรัง และป่าสนเขาและยังมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ ไฮไลท์ที่สำคัญคือลานหินปุ่ม ลานหินแตก และยังมีน้ำตกหมันแดงอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งกางเต็นท์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์

สูงจากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร อันดับ 4 ของประเทศไทยไฮไลท์ที่สำคัญเลยคือ การชมทุ่งดอกไม้สีม่วงที่เรียกว่า”ดอกหงอนนาค” เป็นที่ชื่นชอบของนักถ่ายภาพ ซึ่งจะมีให้เห็นในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือน ส.ค. – ก.ย ของทุกปี นอกจากนี้ยังมีน้ำตกภูสอยดาว ซึ่งมีน้ำไหลตลอดทั้งปี ลานสนสามใบภูสอยดาวและทุ่งดอกไม้ในป่าสน อยู่บนพื้นที่ประมาณ 1,000 กว่าไร่ และที่นี้ยังสามารถมากางเต็นท์และเดินป่าชมธรรมชาติได้อีกด้วย

แนะนําสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมภาคกลางและภาคตะวันตก

น้ำตกทีลอซู จ.ตากน้ำตกที่สวยงามในไทย

น้ำตกทีลอซู จ.ตาก

เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามที่สุดในประเทศไทยและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของเอเชีย ทีลอซูในภาษากระเหรียงแปลว่า น้ำตกดำ ความกว้างของน้ำตกประมาณ 500 ม. สูง 900 เมตรจากระดับน้ำทะเล จุดไฮไลท์ที่สำคัญคือ “รุ้งกินน้ำที่น้ำตกทีลอซู” ทั้งนี้การเดินทางเข้ามาชมจะต้องนั่งเรือยางและต่อด้วยเดินป่าเข้ามาอีก 12 กม. นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติซึ่งมีระยะทางประมาณ 1.5 กม และนักท่องเที่ยวสามารถล่องเรืองยาง ลงเล่นน้ำตก ถ่ายรูปและชมพระอาทิตย์ขึ้นได้ที่ดอยหัวหมด

น้ำตกทีลอเล จ.ตาก

ในภาษากระเหรี่ยงแปลว่าน้ำตกหิน เหมาะแก่การมาล่องแก่งเป็นอย่างมาก เพราะด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี และยังมีสัตว์ป่าน้อยใหญ่อาศัยอยู่ด้วย จากบริเวณป่าสองข้างทางทำให้มีความงดงามเป็นอย่างมาก ด้วยระยะทางกว่า 40 กม.และแก่งกว่า 11 แห่งระดับปานกลางถึงยากมาก จึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งของผู้ที่ชื่นชอบความท้าท้ายและการล่องแก่งเป็นที่สุด

ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 ม. มีอากาศบริสุทธิ์และเย็นสบายตลอดทั้งปีในเดือนธันวาคม- มกราคมจะมีดอกนางพญาเสือโคร่งเบ่งบานให้ได้ชมกันอีกด้วย ถือเป็นสถานที่กางเต็นท์ชื่อดังอีกหนึ่งสถานที่ และในทุกๆปีของช่วงหน้าหนาวผู้คนจากทั่วทุกภาค จะแห่กันมาชมสายหมอกและความสวยงามของภูทับเบิกแห่งนี้ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้สถานที่เป็นจำนวนมากจึงขอความร่วมมือในการช่วยกันรักษาความสะอาดของอุทยานฯด้วย

เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

มีอากาศค่อนข้างเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในตอนเช้าโดยไฮไลท์สำคัญคือ จุดชมวิวทะเลหมอกเขาค้อ จะเห็นทิวหมอกปกคลุมทั่วบริเวณ สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญบนเขาค้อคือ พระตำหนักเขาค้อ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วแก่งบาระจัน น้ำตกศรีดิษฐ์ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามรถเลือกสถานที่พักได้ไม่ว่าจะเป็น ลานกางเต็นท์หรือรีสอร์ทบนเขาค้อก็มีไว้บริการ และยังมีผลิตภัณฑ์จากชุมชนจำหน่ายตามข้างทาง ให้ท่านได้เลือกซื้อกลับบ้าน

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์

มีอากาศเย็นในช่วงตอนกลางคืนและตอนเช้า อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 25 องศา เป็นอีกจุดหมายหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการกางเต็นท์และเดินป่าเพราะที่นี้มีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาตินักท่องเที่ยวจะได้ชมสัตวืป่าและพืชพรรณไม้นานาชนิดอีกด้วย

อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถชมความสวยงามของแนวเทือกเขาติดเขตชายแดนพม่า มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 100-1,247 ม.และมีเทือกเขาที่สูงที่สุดคือ เขาช้างเผือก ซึ่งทุกๆปีจะมีนักท่องเที่ยวแวะมาเยือนความงามของเขาช้างเผือกเป็นอย่างมาก เส้นทางการเดินจึงจำเป็นต้องมีไกด์นำทางเพราะค่อนข้างที่จะอันตรายสำหรับผู้ที่ไปครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีบริการที่พักของทางอุทยานเอาไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี

เป็นอ่างเก็บน้ำที่มีวิวสวยในจังหวัดกาญจนบุรีมีความใหญ่เป็นอันดับ 3 ของไทยนักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาและยังใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ทั้งนี้บริเวณในเขื่อนยังมีที่พักหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ราคาหลักร้อยขึ้นไปไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวที่มา พร้อมทั้งกิจกรรมทางน้ำต่างๆขึ้นอยู่กับทางที่พักของแต่ละที่จัดไว้บริการ

น้ำตกโกรกอีดก จ.สิงห์บุรี

เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมการเดินป่าใช้เวลาไม่ตำ่กว่า 4 ชม.เส้นทางการเดินสู่น้ำตกค่อนข้างโหดควรติดต่อเจ้าหน้าที่ให้นำทางเข้าไปเพราะจะมีทางชัน และปีนป่าย นักท่องเที่ยวควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินป่า ตลอดทางเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่าและความเขียวขจีของธรรมชาติ น้ำตกมีความสูงกว่า 7 ชั้น และยังติดอันดับ 1 ใน 10 ของน้ำตกที่สูงในภาคกลางอีกด้วย

เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯเป็นแหล่งชุมชนชาวมอญที่ยังคงอนุรักษ์ความเป็นพื้นบ้านให้คงไว้ โดยมีพระเจดีย์มุเตาของวัดปรมัยยิกาวาส
เป็นสัญลักษณ์ของเกาะเกร็ดด้วย นอกจากนี้ยังมีวัดอีกมากมายให้ได้ไหว้ขอพรกัน รวมถึงยังมีของกินของฝาก ขนมโบราณ ผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน จำหน่ายตลอดทางเดิน หรือท่านสามารถนั่งเรือชมความสวยงามรอบเกาะนี้ก็ได้

วัดพระศรีสรรเพชญ์ จ.อยุธยา

เป็นเขตพระราชวังโบราณที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ ซึ่งหลงเหลือเพียงซากอิฐปูนและเจดีย์สามองค์ ซึ่งชาวอยุธยาจะกล่าวติดปากว่าเจดีย์สามพี่น้อง เป็นที่ดึงดูดและสนใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาได้เป็นอย่างมาก โดยบริเวณวัดนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดิมชมโบราณสถานหรือจะเช่าจักรยานปั่นเที่ยวชมรอบๆวัดได้ด้วยเพราะยังมีโบราณสถานที่อยู่ใกล้เคียงกันอีก หรือจะนั่งช่างชมเมืองเก่าก็ได้อีกแบบหนึ่ง

ตลาดน้ำอัมพวา จ.สมุทรสงคราม

เกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชนที่อยากอนุรักษ์ความเป็นชุมชนริมน้ำให้คงอยู่ไว้ ซึ่งจะเห็นได้จากการพายเรือขายของบริเวณริมน้ำ และภายในตลาดจะมีอาหาร เครื่องดืม ขนม ของฝากมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองและเลือกซื้อกลับบ้าน นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ถ่ายรูปสวยๆในแนวย้อยยุคอีกด้วย ตลาดจะเปิดทุกวัน ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ 16.00 เป็นต้นไป ในยามค่ำคืนท่านยังสามารถนั่งเรือชมหิ่งห้อยได้อีกด้วย

พระนครคีรี จ.เพชรบุรี

หรือเรียกอีกชื่อว่าเขาวัง เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุรีซึ่งจะเห็นโดดเด่นมาแต่ไกล ถูกสร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบ
นิโอคลาสสิคผสมสถาปัตยกรรมจีน โดยจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมหรือจะนั่งรถรางไฟฟ้าขึ้นไป เนื่องจากด้านบนจะมีลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวจึงต้องระวังเรื่องสิ่งของที่จะนำติดตัวขึ้นไปด้วย

หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

เป็นอำเภอหนึ่งที่ตอนนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดประจวบฯไปแล้วโดยเฉพาะชายหาดหัวหิน ทั้งยังอยูไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีวันหยุดไม่มากได้มาพักผ่อนกันอีกทั้งยังมีอาหารทะเลที่สด อร่อย ราคาไม่แพง ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองกัน และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่อยู่บริเวณใกล้เคียงอีกอาทิเช่น เพลินวาน ซิเคด้ามาร์เก็ท  ตลาดโต้รุ่งหัวหิน เวเนเซียหัวหิน ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม วัดห้วยมงคล เป็นต้น

ถ้ำพระยานคร จ.ประจวบคีรีขันธ์

ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดนักท่องเที่ยวสามารถเลือกที่จะเดินไปหรือนั่งเรือไปก็ได้ ถ้าหากว่าเดินเท้าข้ามเขาเทียนจะเป็นระยะทางประมาณ 530 เมตร ระยะทางค่อนค้างลำบากไม่เหมาะแก่ผูที่มีโรคประจำตัว แต่ถ้าหากนั่งเรือใช้เวลาอ้อมเขาประมาณ 20 นาที เรือจะไปจอดที่ชายหาดจากนั้นต้องเดินเข้าไปในถ้ำอีก 430 เมตร ภายในถ้ำท่านจะเห็น พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ สร้างในสมัย ร.5 เป็นพลับพลาแบบจตุรมุข ซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญของที่นี้ แนะนำนักท่องเที่ยวควรเตรียมยาประจำตัวให้พร้อม และควรสวมร้องเท้าที่เหมาะแก่การเดินเข้าถ้ำเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากบางช่วงอาจเกิดการลื่นระหว่างเดิน

 

แนะนําสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมภาคอีสาน

สัมผัสบรรยากาศเมืองเชียงคาน จ.เลย

เชียงคาน จ.เลย

เป็นเมืองเล็กๆที่เงียบสงบอยู่ติดริมแม่น้ำโขงสุดชายแดนของไทย ผู้คนที่นี้ยังคงไว้ซึ่งประเพณีวัฒนธรรมของคนในท้องถิ่นตามวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม  สังเกตุได้จากตัวอาคารบ้านเรือนที่มีสภาพเก่าตามกาลเวลา ซึ่งเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยือนที่เชียงคานนั้นเอง จุดเด่นของเมืองเชียงคานก็คือ”ถนนชายโขง”และที่นี้ยังมีที่พักโฮมสเตย์ราคาเริมต้นที่ 300-600 บาท และร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวที่มา นักท่องเที่ยวยังสามารถปั่นจักยานชมเมือง ถ่ายรูปสวยๆแวะพักนั่งร้านกาแฟ ตลอดเส้นทางนี้ได้อีกด้วย มาเชียงคานแล้วไม่ควรพลาดที่จะไปไหว้พระให้ครบ 9 วัด ตักบาตรข้าวเหนียวในตอนเช้า ลองชิมอาหารพื้นเมือง เดินเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกจากร้านค้าเก๋ๆของที่นี้ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงคือ แก่งคุดคู้ หมู่บ้านวัฒนธรรมไทยดำ ชมทะเลหมอกภูทอก และวัดพระพุทธบาทภูควายเงิน ให้นักท่องเที่ยวไว้เยี่ยมชมกันอีกด้วย

อุทยานแห่งชาติภูเรือ จ.เลย

ที่มาของชื่อภูเรืองเนื่องจากมีลักษณะเหมือนเรือใหญ่อยู่บนยอดดอยสูง เขาลูกหนึ่งมีชะโงกผายื่นออกมาดูคล้ายสำเภาใหญ่ และที่ราบบนยอดเขา มีลักษณะคล้ายท้องเรือ โดยรอบๆบริเวณจะเห็นภูเขาน้อยใหญ่สลับกัน และยังมีกว้านสมอ ซึ้งหินบ้างก้อนจะมีรูปร่างเหมือนมนุษย์ปั้นขึ้นไว้ ที่ภูเรือยังมีอากาศหนาวเย็นที่สุดในประเทศไทยซึ่งจะมีแม่คะนิ้งให้เห็นในช่วงฤดูหนาว จึงทำให้เป็นที่หลงไหลของนักท่องเที่ยวที่อยากมาสัมผัสกับบรรยากาศหนาวเย็นในช่วงนี้อีกด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาภูเรือคือ ยอดภูเรือ ผาโหล่นน้อย ผาซำทอง น้ำตกห้วยไผ่ ถ้ำไทร สวนหินพาลี ลาดหินแตก หินค้างหม้อ หินวัวนอน ลานสาวเอ้ ทุ่งหินเหล็กไฟ น้ำตกแก่งสุข และสระสวรรค์ ตามตำนานรักภูทุ่ง ทั้งนี้ทางอุทยานฯได้มีบริการที่พักและลานกางเต็นท์ และลานจอดรถ

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย

เป็นภูเขาหินทรายยอดตัด  เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากและยังเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของไทย ระยะทางการเดินขึ้นเขาต้องใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4-5 ชั่วโมงเป็นระยะทางกว่า 9 กม. ซึ่งอุทยานจะเปิดให้ขึ้นได้ตั้งแต่เวลา 07.00-14.00 น. ของทุกวัน นักท่องเที่ยวสามารถไปเยือนภูกระดึงได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี ไฮไลท์สำคัญของที่นี้คือ ผาหล่มสัก ผาหมากดูก ผานกแอ่น สระอโนดาดต น้ำตกธารสวรรค์น้ำตกวังกวาง น้ำตกถ้ำสอเหนือ น้ำตกเพ็ญพบใหม่ ลานกินรี เหมาะกับคนที่ชื่นชอบเดินป่า กางเต็นท์ ชมธรรมชาติ ก็ไม่ควรพลาดที่จะมาเที่ยวที่นี้นั้นเอง

ผาแต้ม จ.อุบลราชธานี

เกิดจากการแยกตัวของผิวโลก ลักษณะเป็นที่ราบสูง และเนินเขา หินทรายสังเกตุได้จากพื้นบริเวณทางเข้า มีหน้าผาสูงชันสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขงและประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม มีความสวยงามเป็นอย่างมาก สภาพของที่นี้จะเป็นป่าเต็งรัง ด้านล่างของผาแต้มมีภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์มีอายุไม่ต่ำกว่า 3,000 ปี ระยะทางการเดินไปชมประมาณ 500 เมตร นอกจากนี้ที่นี้ยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อนเป็นที่แรกของไทย และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอย่างเช่น เสาเฉลียง ลานหินแตก ถ้ำมืด น้ำตกสร้อยสวรรค์ น้ำตกทุ่งนาเมือง น้ำตกแสงจันทร์ (น้ำตกรู) เป็นต้น ข้อแนะนำสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปถ่ายรูปบนผาแต้ม ขอให้ใช้ความระมัดระวัง ไม่ควรไปยืนริมหน้าผาจนเกิดไปเพราะอาจจะลื่นพลัดตกลงไปข้างล่างได้

สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี

หรืออีกชื่หนึ่งว่าแกรนด์แคนย่อนเมืองไทย โบกเป็นคำในภาษาลาวแปลว่าแอ่ง เป็นแก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขงเนื่องจากในช่วงฤดูน้ำหลากแก่งหินนั้นจะจมอยู่ใต้น้ำ ด้วยแรงของกระแสน้ำวนกัดเซาะทำให้แก่งหินกลายเป็นแอ่งเล็กแอ่งใหญ่จำนวนมากกว่า 3,000 แอ่งหรือที่เรียกกันว่า 3 พันโบก ซึ่งจะปรากฏให้เห็นเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง เนื่องจากแต่ละแอ่งมีรูปร่างแตกต่างกันออกไปจึงทำให้มองเห็นเป็นภาพศิลปะ และรูปอื่นๆอีกมากมาย และยังมีโบกมิกกี้เมาส์ ซึ่งเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวที่มาอีกด้วย นักท่องเที่ยวที่มาจะนิยมนั่งเรือจากหาดสลึง ล่องตามลำน้ำโขงระยะทางกว่า 4 กม.ท่านจะได้เห็นน้ำตกริมน้ำโขงซึ่งมีความสวยงามมาก และเรือจะผ่าน “ปากบ้อง” ซึ่งเป็นจุดที่แคบที่สุดของแม่น้ำโขงนี้ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีก เช่น หินหัวพะเนียง แก่งสองคอน ผาหินศิลาเลข และหาดหงส์ เป็นต้น

สะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย

เป็นสะพานแห่งแรกของไทย อยู่ห่างจากตัวเมืองเวียงจันทน์ไปประมาณ 20 กม.เกิดจากความร่วมมือกันของ 3 ประเทศคือไทย ลาว ออสเตรเรีย เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระว่าง ไทย-ลาว สะพานจะเปิดเวลา 05.00-20.00 น. สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่จะข้ามไปยังฝั่งลาว-เวียงจันทร์ ต้องทำบัตรผ่านแดนที่ศาลากลางจังหวัดหนองคายหรืออำเภอด้วยตัวเองโดยนำบัตรประชาชนไปด้วย เสียค่าธรรมเนียมคนละ 40 บาท โดยท่านสามารถข้ามไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างแบบวันเดย์ทริป ของเมืองหลวงเวียงจันทร์ หรือจะข้ามไปช้อปปิ้งสินค้าที่ตลาดตรงด่านฝั่งลาวก็ได้โดยจะมีสินค้าปลอดภาษีจำหน่าย ราคาไม่แพง สถานที่ไม่ควรพลาด คือ ตลาดท่าเสด็จ วัดหลวงพ่อพระใส น้ำตก 7สี น้ำตกธารทอง ฯ เป็นต้น

ผามออีแดง จ. ศรีสะเกษ

ที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญของรอยต่อปราสาทพระวิหารที่หลายคนรู้จักกันดี ตั้งอยู่ที่เขตชายแดนไทย-กัมพูชา มีเทือกเขาพนมดงรักษ์เป็นที่กั้น ผามออีแดงเป็นหน้าผาหินสีแดง ด้านบนยังมามารถมองเห็นวิวได้กว้างขวางไกลสุดตา และจากจุดนี้ยังมองไปเห็นตัวปราสาทพระวิหารได้ด้วย บริเวณด้านล่างจะมีทางลงไปชมภาพแกะสลักนูนต่ำ เป็นภาพคน 3 คนในเครื่องแต่งกายแบบชาวกัมพูชา อายุราวๆ 1,500 ปี นอกจากนี้ท่นสามารถไปเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกัน

อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์

คำว่าพนมรุ้งนั้นมาจากภาษาเขมร คำว่าวนํรุง แปลว่าภูเขาใหญ่ สร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพู เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดูลัทธิไศวะ ซึ่งนับถือพระศิวะเป็นเทพเจ้าสูงสุด ตัวโบราณสถานตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ตัวปราสาทหันไปทางทิศตะวันออกสูงประมาณ 200 ม. นอกจากนี้ยังมีปรากฎการณ์ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกส่องแสงรอดประตูทั้ง15บาน โดยจะมีดวงอาทิตย์ขึ้นและส่องแสงรอดประตูทั้ง 15 บานในวันที่ 3-5 เมษายนและ 8-10 กันยายน ของทุกปี และดวงอาทิตย์จะตกและส่องแสงลอดประตูทั้ง 15 บานในวันที่ 6-8 มีนาคม และ 6-8 ตุลาคม ของทุกปี เช่นกัน

ปราสาทเมืองต่ำ จ.บุรีรัมย์

เป็นศาสนสถานที่สร้างตามคติความเชื่อทางศาสนาฮินดู สันนิษฐานว่าสร้างขึ้น เพื่อถวายพระศิวะ สาเหตุที่เรียกว่าปราสาทเมืองต่ำนั้นเนื่องจากตั้งอยู่ที่ราบ อยู่ห่างจากปราสาทพนมรุ้งเพียง 8 กม.เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดูลัทธิไศวะ ซึ่งนับถือพระศิวะเป็นเทพเจ้าสูงสุด เป็นศิลปะขอมโบราณ ปรางค์ประธานจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก และเป็นด้านที่มีประตูเข้าสู่ภายในองค์ปรางค์เพียงด้านเดียว ส่วนที่เหลืออีก 3 ด้าน คือ ทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันตกนั้น จะทำเป็นรูปประตูหลอก เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 7.30-18.00 น. โดยเสียค่าเข้าชม คนไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท

พระธาตุพนม จ.นครพนม

เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีวอก (ปีลิง) มีลักษณะเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจตุรัสก่อด้วยอิฐ มีกำแพงล้อมองค์พระธาตุ 4ชั้นองพระธาตุตั้งอยู่บนภูกำพร้า เป็นวัดพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรมหาวิหาร ภายในบริเวณมีบึงขนาดใหญ่เรียกว่าบึงพระธาตุ ในวันเพ็ญเดือน 3 ถึง แรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปีจะมีงานประจำปีเพื่อเป็นการนมัสการพระธาตุพนม

 

แนะนําสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงใต้

เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี กุ้ยหลินเมืองไทย

เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี

ถูกสร้าขึ้นเพื่อประโยชน์การชลประทานเพื่อการเพาะปลูก บรรเทาอุทกภัย การประมง การผลิตไฟฟ้า การแก้ไขน้ำเสียและผลักดันน้ำเค็ม และเพื่อการท่องเที่ยว โดยบริเวณโดยรอบประกอบด้วยยอดเขาหินปูนตัดกับน้ำทะเลสีคราม เขื่อนนี้อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก ด้วยทัศนียภาพที่สวยงามจึงได้รับฉายาว่า กุ้ยหลิน เมืองไทย จึงเป็นที่ดึงดูดของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เข้าไปเยี่ยมชมกัน ทั้งนี้ภายในเขื่อนยังมีบริการที่พักบนแพ ซึ่งจะได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และแต่ละที่พักยังมีกิจกรรมทั้งทางบกและทางน้ำไว้คอยบริการอีกด้วย การเดินทางไปยังแพที่พักจะต้องนั่งเรือเข้าไป สามารถติดต่อได้โดยตรงกับทางที่พัก

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี

ประกอบด้วยเกาะต่างๆ 42 เกาะ ไฮไลท์ที่สำคัญคือจุดชมวิวบนยอดเขาของเกาะวัวตาหลับ สามารถมองเห็นวิวรอบเกาะได้ 360 องศา ด้วยทะเลสีครามตัดกับเกาะน้อยใหญ่รอบๆ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 500 ม. ทางเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวแต่ละจุดค่อนข้างลำบาก เป็นหินลาดชัน ต้องใช้ความระวังเป็นอย่างมากไม่เหมาะแก่คนที่มีโรคประจำตัว นักท่องเที่ยวที่ไปสามรถไปพักได้ที่เกาะวัวตาหลับ ซึ่งจะมีที่พักของอุทยานไว้คอยบริการราคาเริ่มต้นที่ 500 บาทและยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ของเกาะไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวที่มา ส่วนบริเวณชายหาดขาวสวยสะอาดสามรถลงเล่นน้ำได้ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกเช่น ทะเลใน เกาะสามเส้า เกาะท้ายเพลา และเกาะวัวกันตัง ซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้เช่นกัน

ทะเลใน จ.สุราษฎร์ธานี

อยู่ห่างจากเกาะวัวตาหลับไปทางทิศเหนือ ใช้เวลานั่งเรือไปประมาณ 15 นาที มีลักษณะเป็นทะเลสาปที่เกิดอยู่ในแอ่งยุบขนาดใหญ่ของภูเขาหินปูน เป็นรูปวงรีล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน เส้นผ่าศูนย์กลาง กว้าง 250 เมตร ยาว 350 เมตร น้ำลึกประมาณ 7 เมตร ซึ่งต้องเดินเข้าไปตามเส้นทางนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมธรรมชาติ และถ่ายภาพได้บริเวณจุดนี้

เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี

เป็นที่รู้จักกันดีของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจากงานฟูมูลปาร์ตี้ที่จัดขึ้นที่หาดริ้น ซึ่งจะจัดทุกค่ำคืน 15 ค่ำ ที่มีพระจันทร์เต็มดวง การเดินทางไปจากเกาะสมุยใช้เวลา 30 นาที นอกจากนี้ที่นี้ยังมีชายหาดขาว น้ำทะเลสวยใส และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆอีกมากมาย เช่น ดำน้ำดูปะการัง เดินป่า ดูนก หรือชมวิถีชีวิตชาวเกาะ ก็เป็นที่น่าสนใจอีกรูปแบบหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวโดมศิลา ซึ่งสามารถมาชมพระอาทิตย์ตกซึ่งสวยงามมาก บนเกาะยังมีที่พัก และร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวที่มา

แหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต

เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากในจังหวัดภูเก็ต ระยะทางขึ้นประมาณ 695 เมตร มีลานจอดรถไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ตลอดข้างทาง นักท่องเที่ยวสามรถชมวิวได้บนถนนหรือจะเดินลงไปชมวิวที่ปลายแหลม ระยะทางประมาณ 1 กม. ซึ่งทางค่อนข้างอันตราย ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินลงไปด้วย

เกาะตาชัย จ.พังงา

มีน้ำทะเลสีฟ้าใส ชายหาดขาวทรายละเอียดนุ่มเท้า ยังมีจุดดำน้ำดูปะการังที่สวยงามและค่อนข้างสมบูรณ์ทำให้มีปลาน้อนใหญ่เข้ามาอาศัยหากินและหลบภัยจากอวนลากตามแนวปะการังแห่งนี้ หากมาในช่วงที่ถูกจังหวะจะได้เห็นฉลามวาฬและกระเบนราหู อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอีกกิจกรรมหนึ่งนั้นก็คือการเดินป่าเข้าไปดู ปูไก่ เป็นปูน้ำจืดที่อาศัยอยู่ตามริมธารน้ำ ลำตัวมีสีแดงและมีกล้ามสีดำเหลือบน้ำเงิน จะมีเสียงร้องคล้ายไก่ ออกหากินในช่วงเวลากลางคืน ช่ววงเวลาที่ควรมามากที่สุดคือเดือนกุมภาพันธ์–เมษยาน จากนั้นเกาะตาชัยจะปิด 6 เดือน เพื่อให้ธรรมชาติ ได้ฟื้นฟูอีกครั้ง

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา

เป็นหมู่เกาะเล็กๆในทะเลอันดามันมี 9 เกาะ คำว่า สิมิลัน ในภาษายาวีแปลว่า เก้า มีความสวยงามทั้งบนบกและใต้ทะเล  สามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้นและ น้ำลึกเพื่อชมความสวยงามของปะการังหลากหลายแบบ รวมถึงสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการดำน้ำเป็นอย่างมาก ช่วงเดือนที่น่าเที่ยวมากที่สุด คือช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนเมษายน นอกจากนั้นจะประกาศปิดเกาะเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ ทั้งนี้หากนักท่องเที่ยวสนใจที่จะพักค้างคืนก็สามารถไปพักได้ที่ หมู่เกาะสุรินทร์เหนือ ซึ่งจะมีบ้านพักของอุทยานฯไว้คอยบริการจะต้องจองมาล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วัน หากนักท่องเที่ยวนำเต้นท์มาเอง จะต้องเสียค่าธรรมเนียมกางเต้นท์ คนละ 80 บาท

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา

เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน อยู่ติดชายแดนประเทศพม่า จุดเด่นของที่นี้คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของความสวยงามใต้ท้องทะเล เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการดำน้ำเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆอีกคือ เกาะสุรินทร์เหนือ อ่าวช่องขาด อ่าวไม้งาม อ่าวกระทิง อ่าวแม่ยาย อ่าวไทรเอน อ่าวจาก อ่าวทรายแดง และยังมีบริเวณเกาะสุริทร์ใต้ซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้กันนั้นก็คือ อ่าวบอน อ่าวเต่า อ่าวผักกาด อ่าวสุเทพ นอกจากนี้ยังมีเกาะบริวารของหมู่เกาะสุรินทร์ที่สำัญอีกคือ เกาำะไข่  เกาะกลางหรือเกาะมังกร เกาะไฟแ่ว่บ เป็นต้น ช่วงเวลาที่ควรมาท่องเที่ยวมากที่สุดคือวันที่ 16 พฤศจิกายน-15 พฤษภาคม ของทุกปี  และเกาะจะปิดในช่วงวันที่ 16 พฤษภาคม-15 พฤศจิกายน ของทุกปีเพื่อฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว ทั้งนี้หากนักท่องเที่ยวสนใจที่จะพักค้างคืนก็สามารถไปพักได้ที่ หมู่เกาะสุรินทร์เหนือ ซึ่งจะมีบ้านพักของอุทยานฯไว้คอยบริการจะต้องจองมาล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วัน หากนักท่องเที่ยวนำเต้นท์มาเอง จะต้องเสียค่าธรรมเนียมกางเต้นท์ คนละ 80 บาท

เกาะลันตา จ.กระบี่

ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ประกอบด้วยเกาะขนาดใหญ่ 2 เกาะ คือเกาะลันตาใหญ่ และเกาะลันตาน้อย โดยเกาะลันตาใหญ่เป็นศูนย์กลางความเจริญและด้านธุระกิจท่องเที่ยว ฝั่งด้านทิศตะวันตก จะมีชายหาดทอดตัวยาวไปเกือบตลอดแนวของเกาะ อีกทั้งยังมีรีสอร์ท บังกะโล ร้านอินเตอร์เนต มินิมาร์ท ร้านอาหาร อยู่ปลายสุดด้านทิศใต้ไว้คอยบริการแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆบนเกาะลันตาอีก เช่น  แหลมคอกวาง หาดคอกวาง หาดคลองดาว หาดลองบีช  หาดคลองโขง หาดคลองหิน หาดคลองนิน  หาดคลองจาก แหลมโตนด เป็นต้น นอกจากนี้นักท่องเที่ยวสามารถซื้อทัวร์เป็นแบบ one day trip จากรีสอร์ท เพื่อเที่ยวชมเกาะอื่นๆได้ด้วย

เกาะปันหยี จ.กระบี่

มีลักษณะเป็นหมู่บ้านที่ตั้งเรียงรายอยู่บนทะเลมีที่ดินนิดเดียว ชาวเกาะส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม คำว่า  ปันหยี แปลว่า “ธง” ชาวเกาะส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำประมงพื้นบ้าน จุดเด่นของที่นั้คือสนามฟุตบอลลอยน้ำ นอกจากนี้บนเกาะยังมีร้านขายของฝากของที่ระลึกอาทิเช่น ผ้าบาติก สร้อย กำไล แหวน ที่ทำมากจากหอยมุก  และมีผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่ออีกอย่างคือ น้ำพริกกุ้งเสียบ กะปิ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารไว้คอยบริการ นักท่องเที่ยวที่มามักนิยมมาทานอาหารกลางวันกันที่เกาะปันหยี การเดินทางมาที่นี้สามารถซื้อแพคเกจทัวร์ท่องเที่ยวจากจังหวัดภูเก็ต หรือพังงา โปรแกรมเที่ยวจะใช้เวลาประมาณครึ่งวัน

หาดสมิหลา จ.สงขลา

หาดสมิหลา อยู่ในเขตเทศบาลนครสงขลา ห่างจากตลาดสดเทศบาลเพียง 2.5 กม มีหาดทรายขาวสะอาด จุดเด่นของแหลมสมิหลาคือรูปปั้นนางเงือกอันเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสงขลา ซึ่งหากใครแวะมาที่สงขลาเป็นต้องแวะมาถ่ายรูปกับรูปปั้นนี้อย่างแน่นอน และเมื่อมองออกไปนอกทะเล จะเห็นเกาะหนูและกาะแมว นอกจากนี้บริเวณหาดยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุและผู่พิการ ที่ต้องการมาพักผ่อนอีกด้วยนั้นก็คือ ทางลาด ทางเดินเชื่อม และรถวีลแชร์

น้ำตกโตนงาช้าง จ.สงขลา

ตั้งอยู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงและความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้และของจังหวัดสงขลา คำว่าโตน เป็นภาษาท้องถิ่น มีความหมายว่า น้ำตก บริเวณน้ำตกมีทั้งหมด 7 ชั้น ซึ่งชั้นที่เป็นไฮไลท์ คือชั้นที่ 3 นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติและเที่ยวชมน้ำตกชั้นต่างๆ ระยะทางประมาณ 1 กม. การเดินทางโดยทางรถยนต์ เริ่มจากอำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา ไปตามถนนเพชรเกษม หาดใหญ่ – รัตภูมิ ถึงกิโลเมตรที่ 13 แยกซ้ายเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง 13 กิโลเมตร ถึงสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง รวมระยะทางหาดใหญ่ถึงสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง 26 กิโลเมตร

อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล

ตั้งอยู่ในทะเลอันดามันบริเวณช่องแคบมะละกามหาสมุทรอินเดีย ชื่อของที่นี้เป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า “ตะโละเตรา” ในภาษามลายู แปลว่า มีอ่าวมาก บริเวณด้านใต้ของเขตอุทยานแห่งชาติ ห่างจากชายแดนไทย-มาเลเซีย เพียง 4.8 กิโลเมตร ที่นี้เป็นอีกจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยวที่ชื่นธรรมชาติ เพราะที่นี้มีความสวยงามทั้งบนเกาะและในน้ำ มีป่าที่อุดมสมบูรณ์ ในน้ำก็งดงามด้วยกลุ่มปะการังหลากสีสวยสด รอคอยนักท่องเที่ยวให้มาเยือน การเดินทางสามารถไปขึ้นเรือได้ที่ท่าเทียบเรือปากบารา

หมู่เกาะอาดัง-ราวี จ.สตูล

อยู่ใต้สุดของทะเลไทยฝั่งอันดามัน เหมาะแก่การดำน้ำลึกและน้ำตื้น เพราะน้ำทะเลค่อนข้างใส สำหรับจุดดำน้ำนั้นอยู่บริเวณ ร่องน้ำจาบัง จะมีกองหินจาบัง เป็นจุดหมายระหว่างเกาะอาดัง เกาะราวี และเกาะหลีเป๊ะ ลักษณะเป็นกองหินรูปทรงคล้ายภูเขา 5 ยอดอยู่ใต้น้ำ นอกจากนี้ยังมีปะการังอ่อนหลากสีสันเหมือนสวนดอกไม้ที่อยู่ใต้ท้องทะเล ไฮไลท์ของที่นี้คือ ที่ร่องน้ำจาบัง เป็นจุดที่สามารถดำน้ำแบบ snorkeling แล้วเห็นปะการังอ่อนที่มักพบในจุดดำน้ำลึกได้ สื่อให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และยังสามารถพบเห็นดอกไม้ทะเลและปลาการ์ตูนอีกด้วย การเดินทางสามารถไปขึ้นเรือได้ที่ท่าเทียบเรือปากบารา หรือนักท่องเที่ยวสามารถซื้อทัวร์เป็นแบบ one day trip จากรีสอร์ท เพื่อเที่ยวชมเกาะอื่นๆได้ด้วย

เกาะมุก-ถ้ำมรกต จ.ตรัง

เป็นเกาะที่มีความใหญ่เป็นอันดับ 3 ของจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นไฮไลท์ที่สำคัญที่สุดในทะเลตรังแห่งนี้ ลักษณะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นโขดหน้าผาหินสูงตระหง่านหันหน้าออกสู่ทะเล สามารถเดินเที่ยวรอบเกาะได้ ทางด้านทิศตะวันตกของกเกาะมุก มีถ้ำมรกตหรือถ้ำทะเลเป็นจุดเด่น ซึ่งมีความงดงามตระการตาอย่างมาก จากปากทางเข้าถ้ำเป็นโพรงเล็กๆ การเข้าชมภายในถ้ำ จะต้องว่ายน้ำลอยคอเข้าไป ระยะทาง 80 เมตร บริเวณปากทางเข้าถ้ำแสงจากภายนอกจะสะท้อนกับน้ำภายในถ้ำทำให้เห็นน้ำ เป็นสีเขียวมรกต เมื่อพ้นปากถ้ำออกมาอีกด้านหนึ่งจะเห็นหาดทรายขาวสะอาดล้อมรอบด้วยหน้าผาสูง ชัน นั่งเล่นน้ำได้ เกาะมุกมีที่พักเอกชนบริการ ช่วงเวลาที่ควรมาเที่ยวที่สุดคือ เดือน ธ.ค.-พ.ค.

เกาะรอก จ.ตรัง

ประกอบด้วย 2 เกาะคือ เกาะรอก และ เกาะรอกนอก อยู่ในน่านน้ำทะเลกระบี่ที่เชื่อมต่อทะเลตรัง ลักษณะเป็นสองเกาะเล็กๆตั้งคู่กัน ด้านที่หันหน้าเข้าหากันเป็นหาดทรายคั่นด้วยร่องน้ำทะเลตื้นๆ สองด้านของอ่าวเป็นผาหินสูง ระยะห่างของเกาะ ประมาณ 250 เมตร เหมาะแก่ผู้ที่ชื่นชอบความโรแมนติกจากธรรมชาติ เกาะรอกยังเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้น เพราะจะได้เห็นปะการังก้อน ดอกไม้ทะเล และปลาการ์ตูน อาศัยอยู่มากมาย บริเวณด้านหลังเกาะมีเส้นทางเดินขึ้นจุดชมวิวซึ่งอยู่บนเขาเมื่อมองลงมาจะเห็นทัศนียที่สวยงาม นอกจากนี้ยังสามารถมานั่งชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น แบบโรแมนติกได้อีกด้วย

เกาะเสม็ด จ.ระยอง

เชื่อกันว่าเป็นเกาะแก้วพิศดาร สาเหตุที่ชื่อเกาะเสม็ด เนื่องจากเกาะนี้มีต้นเสม็ดแดง เสม็ดขาวอยู่เป็นจำนวนมาก อยู่ห่างจากชายฝั่งบ้านเพประมาณ 6.5 กม. นั่งเรือจากชายฝั่งบ้านเพไปประมาณ 30 นาที  อีกทั้งบนเกาะยังมีที่พักและร้านอาหารไว้คอยบริการอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีก เช่น เกาะกุฎี เกาะทะลุ น้ำตกเขาชะเมา อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง และอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เป็นต้นซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้เช่นกัน ในช่วงเดือนพฤษภาคมมีมรสุมและคลื่นลมจัดมาก

เกาะช้าง จ.ตราด

เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไทยรองจาก ภูเก็ต ลักษณะมีพื้นกลางเกาะเป็นภูเขา ป่าชื้น  มีที่ราบอยู่ตามขอบเกาะก่อนถึงชายหาดของอ่าวต่างๆ มีหินผาสลับซับซ้อนมีสภาพสมบูรณ์ เป็นป่าดงดิบเขา ยอดเขาที่สูงที่สุดได้แก่ ยอดเขาสลักเพชรสูงถึง 744 เมตร ทั้งนี้ยังมีโรงแรม รีสอร์ท บังกะโล หรือจะเป็นบ้านพักแบบธรรมดาๆราคาประหยัด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไว้คอยบริการ รวมถึงบาร์ ร้านอาหาร มินิมาร์ท อีกด้วย การเดินทางไปเกาะช้างทางเรือโดยสารจากท่าเรือแหลมงอบ  ไปยังเกาะช้าง ได้ทั้งหมด 3 ท่า คือ บ้านธารมะยม บ้านอ่าวสับปะรด บ้านด่านเก่า ได้ตามความสะดวกของนักท่องเที่ยว การเดินทางบนเกาะสามารถนั่งรถสองแถวจากท่าเรือ มีรถสองแถวไปยังหาดทรายขาว คลองพร้าว ไก่แบ้ ส่วนหาดอื่นๆ ต้องเหมา และตกลงราคาก่อนเดินทาง

เกาะกูด จ.ตราด

เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ ระยะทางห่างจากตัวเมืองตราด 80 กิโลเมตร อยู่สุดท้ายทางทิศตะวันออกของประเทศไทย ขนาดความยาวของเกาะ 25 กิโลเมตรน้ำทะเลสวยใสสามารถมองลงไปเห็นโขดหินใต้น้ำ ชายหาดขาว มีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก จุดเด่นของเกาะกูดคือน้ำตกคลองเจ้า ซึ่งจะมีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีทั้งหมด 3 ชั้น มีความสวยงามมากเลยทีเดียว การมาเที่ยวเกาะกูดนั้น มาได้โดยซื้อแพ็กเกจทัวร์จากโต๊ะขายทัวร์หรือตามที่พักต่างๆ นอกจากนี้บนเกาะยังมีรีสอร์ท ที่พักไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวที่มาอีกด้วย

เกาะหมาก จ.ตราด

อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 38 กิโลเมตร เกาะหมากมีรูปร่างคล้ายดาวสี่แฉก โดยรอบมีอ่าว และชายหาดที่สวยงาม น้ำใสสะอาด ท้องฟ้าสีคราม ล้อมไปด้วยต้นมะพร้าว เป็นสวรรค์สำหรับผู้รักความสงบแต๋ก็ยังไม่ละทิ้งซึ่งความสบาย นั่งเรือสปีดโบ้ทจากฝั่งแค่ 50 นาที มาได้โดยซื้อแพ็กเกจทัวร์จากโต๊ะขายทัวร์หรือตามที่พักต่างๆ นอกจากนี้บนเกาะยังมีรีสอร์ท ที่พักไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวที่มาอีกด้วย

 

 

Summary
Review Date
Reviewed Item
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
Author Rating
51star1star1star1star1star